Page 63 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 63
ควำมถูกต้องเป็นธรรม และผลประโยชน์ส่วนรวมของชำติ เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นให้มีควำมอิสระในกำรปฏิบัติหน้ำที่
เป็นส�ำคัญ และมำตรำ ๔๑ ก�ำหนดว่ำ ให้ กสม.จัดให้มี และมำตรำ ๒๔๗ (๔) บัญญัติให้ กสม. มีหน้ำที่และอ�ำนำจ 1
แผนกำรด�ำเนินกำรเพื่อให้กำรปฏิบัติหน้ำที่นี้เป็นไปโดย ชี้แจงและรำยงำนข้อเท็จจริงฯ กำรที่ร่ำง พ.ร.ป. กสม.
ไม่ชักช้ำ แล้วเสร็จในระยะเวลำที่ก�ำหนด ซึ่ง กสม. ได้จัด มำตรำ ๔๔ ก�ำหนดให้ในกรณีที่เมื่อควำมปรำกฏต่อ 2
ท�ำรำยงำนผลกำรประเมินสถำนกำรณ์ด้ำนสิทธิมนุษยชน คณะกรรมกำรไม่ว่ำโดยทำงใดว่ำมีกำรรำยงำนสถำนกำรณ์
ของประเทศมำอย่ำงต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือ 3
ไม่เป็นธรรม คณะกรรมกำรต้องตรวจสอบและชี้แจงหรือ
๒.๒.๓ กำรเสนอแนะมำตรกำรหรือแนวทำง จัดท�ำรำยงำนข้อเท็จจริงที่ถูกต้องของสถำนกำรณ์โดยไม่
ในกำรส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ชักช้ำนั้น เป็นกำรจ�ำกัดกำรใช้ดุลพินิจของคณะกรรมกำร 4
ภำรกิจประกำรนี้ได้บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. กสม. ๒๕๔๒ ในกำรพิจำรณำว่ำเรื่องใดสมควรต้องตรวจสอบและชี้แจง
มำตรำ ๑๕ (๓) ก�ำหนดให้ กสม. มีหน้ำที่และอ�ำนำจในกำร เนื่องจำกกำรบัญญัติกฎหมำยในลักษณะดังกล่ำวเมื่อมี 5
เสนอแนะนโยบำยและข้อเสนอในกำรปรับปรุงกฎหมำย หน่วยงำนหรือองค์กรใดที่ท�ำให้ควำมปรำกฏต่อคณะ
กฎ หรือข้อบังคับต่อรัฐสภำ และคณะรัฐมนตรีเพื่อส่งเสริม กรรมกำร คณะกรรมกำรจะต้องด�ำเนินกำรตรวจสอบ
และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ต่อมำในรัฐธรรมนูญแห่ง และชี้แจงทุกกรณี ซึ่งเป็นกำรบัญญัติกฎหมำยเกินกว่ำ
รำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ มำตรำ ๒๔๗ (๓) ที่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย มำตรำ ๒๔๗
และ พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มำตรำ ๒๖ (๓) ก�ำหนดให้ (๔) ก�ำหนดไว้ อีกทั้งย่อมท�ำให้กำรปฏิบัติหน้ำที่ของ
กสม. มีอ�ำนำจและหน้ำที่ในกำรเสนอแนะมำตรกำรหรือ กสม. ตกอยู่ภำยใต้อ�ำนำจของฝ่ำยบริหำร อันไม่ตรงกับ
แนวทำงในกำรส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง เจตนำรมณ์ของรัฐธรรมนูญฯ มำตรำ ๒๑๕ วรรคหนึ่ง
กำรแก้ไขปรับปรุงกฎหมำย กฎ ระเบียบ หรือค�ำสั่งใด ๆ ที่ต้องกำรให้คณะกรรมกำรเป็นองค์กรอิสระที่มีควำมเป็น
ต่อรัฐสภำ คณะรัฐมนตรี และหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ อิสระในกำรปฏิบัติหน้ำที่ อย่ำงไรก็ตำม รัฐธรรมนูญ
สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน และรัฐธรรมนูญแห่ง แห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ และ พ.ร.ป.
รำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ มำตรำ ๒๔๗ กสม. ๒๕๖๐ ยังคงบทบัญญัตินี้ไว้
วรรคสอง บัญญัติให้ เมื่อรับทรำบข้อเสนอแนะดังกล่ำว
ให้คณะรัฐมนตรีด�ำเนินกำรปรับปรุงแก้ไขตำมควำม ส�ำหรับกระบวนกำรท�ำงำนตำมหน้ำที่และอ�ำนำจนี้เป็น
เหมำะสมโดยเร็ว หำกไม่อำจด�ำเนินกำรได้หรือต้องใช้ ไปตำม พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มำตรำ ๒๖ (๔) บัญญัติให้ กสม.
เวลำให้แจ้งเหตุผลให้ กสม. ทรำบโดยไม่ชักช้ำ ชี้แจงและรำยงำนข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้ำ ในกรณีที่
มีรำยงำนสถำนกำรณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย กลไกและกระบวนการทำางาน
๒.๒.๔ กำรชี้แจงและรำยงำนข้อเท็จจริง โดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม โดยมำตรำ ๔๔ บัญญัติว่ำ
กรณีมีกำรรำยงำนสถำนกำรณ์เกี่ยวกับ เมื่อควำมปรำกฏต่อคณะกรรมกำรไม่ว่ำโดยทำงใดว่ำมี
สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้อง รำยงำนสถำนกำรณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
หรือไม่เป็นธรรม โดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม คณะกรรมกำรต้องตรวจสอบ
ในระหว่ำงกำรร่ำงรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย และชี้แจงหรือจัดท�ำรำยงำนข้อเท็จจริงที่ถูกต้องของ
พุทธศักรำช ๒๕๖๐ กสม. ชุดที่ ๓ ได้ท�ำหนังสือถึง สถำนกำรณ์นั้นโดยไม่ชักช้ำ เพื่อเผยแพร่ให้ประชำชนทรำบ
คณะกรรมกำรร่ำงรัฐธรรมนูญ ขอให้ตัดภำรกิจตำมหน้ำที่ เป็นกำรทั่วไป และให้สรุปไว้ในรำยงำนผลกำรประเมิน
และอ�ำนำจดังกล่ำวออก เนื่องจำกเห็นว่ำเป็นอ�ำนำจ สถำนกำรณ์ด้ำนสิทธิมนุษยชนของประเทศประจ�ำปีด้วย
และหน้ำที่โดยตรงของรัฐบำล ต่อมำเมื่อรัฐธรรมนูญ ในกำรด�ำเนินกำรดังกล่ำว กสม. ได้แต่งตั้งคณะท�ำงำน
แห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ ประกำศใช้ ภำยในเพื่อศึกษำเบื้องต้น และก�ำหนดแนวทำงกำรจัดท�ำ
และระหว่ำงกำรร่ำง พ.ร.ป. กสม. กสม. ชุดที่ ๓ เสนอ ค�ำชี้แจงกรณีมีรำยงำนสถำนกำรณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
ควำมเห็นไปยังประธำนสภำนิติบัญญัติแห่งชำติว่ำ ในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ประกำศใช้
รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๕ มกรำคม ๒๕๖๓ ส�ำหรับเป็นกรอบในกำร
มำตรำ ๒๑๕ วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติให้องค์กรอิสระ จัดท�ำค�ำชี้แจง รวมทั้งได้ด�ำเนินกำรตำมแนวทำงใน พ.ร.ป.
กสม. ๒๕๖๐ มำตรำ ๔๔ ข้ำงต้น
61