Page 212 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 212
กับมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ คณะอนุกรรมการด้านสิทธิเด็กและการศึกษา ภายใต้
ราชทัณฑ์สามารถปฏิบัติงานตามหลักสิทธิมนุษยชนและ กสม. ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและตรวจเยี่ยมสถานที่เสี่ยงต่อ
ลดปัญหาเรื่องร้องเรียนได้ การละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน ตามประเด็นที่ได้ก�าหนด
จากการศึกษามาตรฐานการดูแลเด็กและเยาวชนที่ถูก
(๓.๒) กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการราชทัณฑ์ ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ อาทิ ปฏิญญาสากลว่าด้วย
ควรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาความเหมาะสม สิทธิมนุษยชน (UDHR) กติกา ICCPR กติกา ICESCR
ของการใช้เครื่องพันธนาการกับแก่ผู้ต้องขัง โดยเฉพาะ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และพิธีสารเลือกรับ คู่มือปฏิบัติการ
ควรพัฒนาหรือน�ารูปแบบของเครื่องพันธนาการอื่น ตรวจเยี่ยมสถานที่คุมขัง ยุทธศาสตร์ต้นแบบและ
ที่สามารถควบคุมผู้ต้องขังได้มาใช้แทนเครื่องพันธนาการ มาตรการเชิงปฏิบัติของสหประชาชาติในการขจัดความ
รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
แบบเดิม และพิจารณายกเลิกการใช้ตรวนเป็นเครื่องพันธนาการ รุนแรงต่อเด็ก ในด้านการป้องกันอาชญากรรมและ
เนื่องจากมีลักษณะที่ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา (United Nations Model
ของผู้ต้องขังที่ถูกบังคับใช้ นอกจากนี้ ควรพิจารณาก�าหนด Strategies and Practical Measures on the Field of
เงื่อนไขการใช้อ�านาจของเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ในการสั่งให้ใช้ Crime Prevention and Criminal Justice) ฯลฯ ซึ่งจาก
เครื่องพันธนาการแก่ผู้ต้องขังให้เข้มงวดยิ่งขึ้น มิให้เกินเลย ข้อมูลที่ได้ ทั้งจากกฎหมาย ระเบียบ และแนวปฏิบัติของ
สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
ไปกว่าเงื่อนไขที่กฎหมายก�าหนด หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับกระบวนการ
ประเมินปัจจัยที่ก่อให้เกิดการกระท�าผิด การท�าแผน
การจัดทำาโครงการเพื่อจัดทำาข้อเสนอแนะมาตรการ บ�าบัดฟื้นฟูรายบุคคล โดยการมีส่วนร่วมของเด็ก พ่อแม่
หรือแนวทางการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็ก ผู้ปกครอง ทีมสหวิชาชีพ โครงสร้างทางกายภาพของสถาน
และเยาวชนเพื่อส่งเสริมการเคารพและการปฏิบัติ ที่ควบคุมอันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการปกป้องคุ้มครองมิให้
ตามหลักสิทธิมนุษยชนเชิงกัลยาณมิตร: สิทธิเด็ก เด็กถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน การบริการด้านการแพทย์
ในกระบวนการยุติธรรม และสาธารณสุข สถานที่ให้ญาติมาเยี่ยม ความถี่และ
กสม. มีอ�านาจหน้าที่ตาม พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ ในการ ระยะเวลาการให้เข้าเยี่ยม ความใกล้ชิดในการเยี่ยม
ส่งเสริมความเคารพและการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน การติดต่อกับโลกภายนอก การร้องเรียน/ร้องทุกข์
ทั้งในระดับประเทศ และระดับระหว่างประเทศ ตรวจสอบ การสันทนาการ รวมตลอดจนสถานการณ์ ข้อคิดเห็น
การกระท�าหรือละเลยการกระท�าอันเป็นการละเมิด ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ในการด�าเนินการได้มี
สิทธิมนุษยชน หรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศ การรับฟังความเห็น ข้อเสนอ ตลอดจนปัญหา อุปสรรค
ที่ประเทศไทยเป็นภาคี และเสนอมาตรการการแก้ไข และข้อขัดข้องในการปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยาเด็ก
การส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่าง และเยาวชนที่ถูกลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ รวมถึงสื่อสาร
หน่วยงานราชการ องค์การเอกชน และองค์กรอื่นในด้าน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ กฎหมาย และ
สิทธิมนุษยชน ซึ่งกว่าสิบสี่ปีที่ผ่านมานับแต่ก่อตั้งองค์กร พันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิเด็กแก่หน่วยงานและ
มีเรื่องร้องเรียนที่ขอให้มีการตรวจสอบการละเมิด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
สิทธิมนุษยชนของเด็กและเยาวชน รวมอยู่ด้วยจ�านวนมาก
จากการตรวจสอบค�าร้องและจากการตรวจเยี่ยมสถานที่ การด�าเนินการ
เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน พบว่า สาเหตุส�าคัญ นับตั้งแต่ กสม. ชุดที่ ๓ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ได้ลงพื้นที่
ประการหนึ่งที่ท�าให้เกิดการละเมิดสิทธิของเด็กและ ตรวจเยี่ยมเชิงกัลยาณมิตร ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก
เยาวชน เนื่องจากการสื่อสารความเข้าใจและตระหนัก และเยาวชนจ�านวน ๑๙ แห่ง และสถานพินิจและ
เกี่ยวกับสิทธิเด็กที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองไว้ใน คุ้มครองเด็กและเยาวชน จ�านวน ๒๓ แห่ง โดยมี
รัฐธรรมนูญ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก กฎหมายว่าด้วย วัตถุประสงค์ ๑) เพื่อตรวจเยี่ยมและหารือผู้บริหาร
การคุ้มครองสิทธิเด็ก รวมทั้งมาตรฐานสากลในการปฏิบัติ และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฝึกและอบรมฯ และสถานพินิจฯ
ต่อเด็กและเยาวชนในที่คุมขังยังไม่เพียงพอ จึงท�าให้เกิด เพื่อทราบระบบ กระบวนการท�างาน สภาพปัญหาอุปสรรค
การกระท�าหรือละเลยการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ควรมีการปรับปรุงแก้ไข ๒) เพื่อให้
และเยาวชน
210