Page 115 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 115

ของกระบวนการพิจารณา  และเพื่อการบังคับตาม  ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีค�าคัดค้าน
              ค�าพิพากษา การคุมขังระหว่างการพิจารณาต้องใช้ดุลพินิจ ของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ โจทก์ หรือผู้เสียหาย    1
              พิจารณาเฉพาะในแต่ละบุคคล โดยต้องมีเหตุผลและ  แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้ และมาตรา
              ความจ�าเป็น อีกทั้ง ค�านึงถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์  ๑๐๘/๑ ได้ก�าหนดไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวในกรณี (๑) ผู้ต้องหา   2
              ในการป้องกันการหลบหนี การยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน   หรือจ�าเลยจะหลบหนี (๒) ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยจะไป
              หรือการกระท�าผิดซ�้า โดยต้องระบุไว้ในกฎหมาย และ ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน (๓) ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยจะไป   3
              ไม่ควรก�าหนดไว้อย่างคลุมเครือหรือกว้างขวางมาก   ก่อเหตุอันตรายประการอื่น (๔) ผู้ร้องขอประกันหรือ

              ศาลต้องหาทางเลือกอื่นส�าหรับการคุมขังระหว่างรอ  หลักประกันไม่น่าเชื่อถือ (๕) การปล่อยชั่วคราวจะเป็น
              การพิจารณา เช่น การประกันตัว (Bail) ก�าไลอิเล็กทรอนิกส์  อุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน   4
              (Electronic Bracelets) หรือเงื่อนไขอื่น ๆ และถ้า  ของเจ้าพนักงานหรือการด�าเนินคดีในศาล และมาตรา ๑๑๐
              ระยะเวลาที่จ�าเลยได้ถูกกักขังถึงระยะเวลาที่นานที่สุด  ก�าหนดว่า หากเป็นคดีที่มีอัตราโทษจ�าคุกอย่างสูงเกิน  5
              ของการตัดสินส�าหรับก�าหนดโทษของความผิดนั้น  ห้าปีขึ้นไป ผู้ที่ถูกปล่อยชั่วคราวต้องมีประกันและจะมี
                                       ๒๔
                                                                         ๒๕
              จ�าเลยควรได้รับการปล่อยตัว  การคุมขังระหว่างรอ หลักประกัน  ด้วยหรือไม่ก็ได้แต่ในคดีอย่างอื่นจะปล่อย
              การพิจารณาเป็นระยะเวลานานเป็นการท�าลายหลักการ ชั่วคราวโดยไม่มีประกันเลยหรือมีประกัน หรือมีประกันและ
              สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามข้อ ๑๔ ข้อย่อย ๒ ดังนั้น  หลักประกันด้วยก็ได้ การเรียกประกันหรือหลักประกัน
              บุคคลที่ไม่ได้รับการปล่อยตัว การพิจารณาคดีจะต้อง  จะเรียกจนเกินควรแก่กรณีมิได้ และต้องค�านึงถึงเงื่อนไข

              ด�าเนินอย่างรวดเร็ว โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   และมาตรการป้องกันต่าง ๆ ที่ได้ใช้กับผู้ถูกปล่อยชั่วคราว
              พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้บัญญัติรับรองสิทธิในการได้รับ ประกอบด้วย จะเห็นได้ว่ากฎหมายไม่ได้ก�าหนดว่า
              การปล่อยตัวชั่วคราวไว้ในมาตรา ๔๐ (๗) ในคดีอาญา  ในการปล่อยตัวชั่วคราวจะต้องมีหลักประกันเท่านั้น
              ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยมีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว   แต่ได้ก�าหนดไว้ให้เป็นดุลพินิจแก่ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่
              ซึ่งสิทธิดังกล่าวยังคงได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ  พิจารณาเป็นรายกรณี
              แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗
              มาตรา ๔                                             ๓.  ประเด็นการพิจารณาคดีโดยไม่ชักช้าเกินความจ�าเป็น

                                                                  กติกา ICCPR ข้อ ๑๔ ข้อย่อย ๓ (ค) รับรองสิทธิที่จะ
                 นอกจากนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  ได้รับการพิจารณาโดยไม่ชักช้าเกินกว่าความจ�าเป็น
              ได้มีการบัญญัติสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวไว้ โดยใน เป็นการคุ้มครองไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยต้องถูกควบคุม
              มาตรา ๑๐๗ ได้ก�าหนดให้ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยทุกคน  ภายใต้อ�านาจรัฐที่นานจนเกินไป และหากผู้ต้องหาหรือ  ผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
              พึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยในการวินิจฉัยค�าร้อง  จ�าเลยไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่ต้องถูกคุมขัง
              ขอปล่อยชั่วคราว มาตรา ๑๐๘ ได้ก�าหนดให้ต้องพิจารณา ในเรือนจ�าซึ่งมีผลเป็นการจ�ากัดสิทธิและเสรีภาพ
              ข้อเหล่านี้ประกอบ (๑) ความหนักเบาแห่งข้อหา (๒)  ศาลจะต้องพิจารณาอย่างรวดเร็วในทุกขั้นตอนของ
              พยานหลักฐานที่ปรากฏแล้วมีเพียงใด (๓) พฤติการณ์ กระบวนพิจารณา  เนื่องจากการคุมขังระหว่างรอ
                                                                               ๒๖
              ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร (๔) ผู้ร้องขอประกันหรือ  การพิจารณาที่ยาวนานเป็นการท�าลายหลักการสันนิษฐาน

              หลักประกันได้เพียงใด (๕) ผู้ต้องหาหรือจ�าเลยน่าจะ  ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีอาจเกิด
              หลบหนีหรือไม่ (๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิด  ความล่าช้าได้ด้วยเหตุหลายประการซึ่งต้องพิจารณา
              จากการปล่อยชั่วคราวมีเพียงใดหรือไม่ (๗) ในกรณีที่  เป็นรายกรณี





              ๒๔  UN Human Rights Committee (HRC), General comment no. 35, Article 9, “Liberty and security of person”, (16 December 2014)
              ๒๕  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๔ ก�าหนดให้หลักประกันมี ๓ ชนิด คือ (๑) มีเงินสดมาวาง (๒) มีหลักทรัพย์อื่นมาวาง (๓) มีบุคคลมาเป็น
              หลักประกัน โดยแสดงหลักทรัพย์
              ๒๖  UN. Human Rights Committee (90  sess. : 2007 : Geneva), General comment no. 32, Article 14, “Right to equality before courts
                                        th
              and tribunals and to fair trial”, (23 Aug 2007).


                                                                                                                 113
   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120