Page 63 - คู่มือประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และรายการตรวจสอบของภาคธุรกิจ
P. 63
กรอบการท�า HRDD 7
• เสนอให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร่วมทุนต้องรับผิดชอบต่อ
จุดคานงัดกับรัฐ
ประเด็นสิทธิมนุษยชน
• ส่งบุคลากรในบริษัทไปทำาหน้าที่สำาคัญๆ เช่น เรื่องสุขภาพและ
บริษัทของคุณอาจต้องเจรจาต่อรองสัญญากับภาครัฐ หรือมีข้อตกลงกับหน่วยงานราชการ “หลักการทำาสัญญา ความปลอดภัย ฝ่ายตรวจสอบภายใน เป็นต้น
ที่รับผิดชอบ” (Principles for Responsible Contracts) ซึ่งพัฒนาโดยผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ได้วาง • ใส่การประเมินโครงการในมิติต่างๆ เป็นครั้งคราวโดยผู้ประเมิน
แนวทางว่า บริษัทควรทำาอย่างไรให้สัญญาเหล่านี้คุ้มครองสิทธิมนุษยชน ขั้นตอนต่างๆ ในหลักการดังกล่าวสามารถนำามา อิสระ เช่น ผลประกอบการด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และ
ประยุกต์ใช้กับข้อตกลงอื่นๆ ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การเจรจาบันทึกความเข้าใจกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง หรือ สิทธิมนุษยชน เข้าไปในสัญญาร่วมทุน
กำาหนดเงื่อนไขการรับมอบที่ดินและการโยกย้ายถิ่นฐานของชุมชน ถ้าหากรัฐไม่เต็มใจที่จะใส่เนื้อหาว่าด้วยการคุ้มครอง • บูรณาการบทสนทนาเกี่ยวกับวิธีจัดการผลกระทบด้าน
สิทธิมนุษยชนเข้าไปในสัญญา บริษัทของคุณก็จะต้องมองหาช่องทางอื่นที่จะใส่ประเด็นนี้ เช่น ผ่านกระบวนการ สิทธิมนุษยชนเข้าไปในการประชุมทางเทคนิคครั้งสำาคัญๆ
ปฏิบัติการของบริษัท การทำาบันทึกความเข้าใจกับหน่วยงานความมั่นคง ยกระดับขีดความสามารถของบุคลากร และ
เข้าไปหารือกับรัฐบาลในประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากบริษัทของคุณอยู่ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ
ทรัพยากรธรรมชาติ คุณก็อาจสามารถรวมกลุ่มกับบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจเดียวกัน ไปหารือกับรัฐเกี่ยวกับความเสี่ยงด้าน
สิทธิมนุษยชนจากการตักตวงทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าหากบริษัทของคุณเป็นบริษัทระดับชาติ บริษัทก็อาจมีคานงัด จุดคานงัดกับผู้รับเหมาหรือคู่ค้า
หรืออำานาจต่อรองกับรัฐอยู่แล้ว สามารถใช้อิทธิพลนี้ในการลดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนได้
คู่ค้าและผู้รับเหมาของบริษัทของคุณมีความรับผิดชอบของตัวเองเช่นกัน ในการเคารพสิทธิมนุษยชนตลอด
การปฏิบัติการของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถหรือไม่ยินยอมที่จะรับผิดชอบ ผลกระทบด้าน
จุดคานงัดในการร่วมทุน (Joint Venture: JV) สิทธิมนุษยชนใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นก็อาจเชื่อมโยงกับการประกอบการของบริษัทของคุณ วิธีที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์
แบบนี้ รวมถึงวิธีต่อไปนี้
เมื่อใดที่บริษัทของคุณจะร่วมทุนทำาธุรกิจกับบริษัทอื่น ก็มีหลายวิธีที่จะสร้างคานงัดในประเด็นสิทธิมนุษยชน
ยกตัวอย่างเช่น
• คัดกรองผู้รับเหมาและคู่ค้าบนพื้นฐานของความทุ่มเทและศักยภาพในการ
เคารพสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในสากล
• พยายามร่วมทุนกับบริษัทที่ “คิดตรงกัน” ถ้าเป็นไปได้
• ใช้อิทธิพลกำาหนดโครงสร้างของการร่วมทุน เช่นวิธีต่อไปนี้ • ประกาศว่าการเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นเงื่อนไขในการจัดซื้อจัดจ้างและ
• เลือกบุคลากรหลักที่เข้าใจและมุ่งมั่นกับการเคารพสิทธิ ต่ออายุสัญญา
• บูรณาการการเคารพสิทธิเข้าไปในเงื่อนไขของสัญญาร่วมทุน เช่น • ใส่การทำาตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัท สิทธิมนุษยชนที่ได้รับ
อ้างอิงมาตรฐานที่จะทำาตาม และมาตราที่เกี่ยวกับการควบคุม การยอมรับในสากล หรือหลักการอื่นๆ ที่สอดคล้องกัน เป็นเงื่อนไขข้อหนึ่ง
ดูแลและการรายงาน ในสัญญา
• ขอรับทุนสนับสนุน เช่น เงินกู้ จากสถาบันที่กำาหนดว่าลูกค้า • รับมือกับความเสี่ยงใดๆ ก็ตามที่อาจเกิดจากพฤติกรรมของผู้รับเหมา
จะต้องทำาตามมาตรฐานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมบางอย่าง ในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพวกเขา ด้วยการรวม
ซึ่งแปลว่าจะต้องบูรณาการเรื่องนี้เข้าไปในการจัดการโครงการ บุคลากรเหล่านี้เข้ามาในการอบรมด้านสิทธิมนุษยชนทุกครั้งที่ทำาได้
• พยายามเป็นผู้ถือหุ้นเสียงข้างมาก • ประกาศว่าบริษัทจะเพิ่มราคารับซื้อหรือทำาธุรกิจกับผู้รับเหมา / คู่ค้ามากขึ้น
• ในกรณีที่บริษัทของคุณเป็นผู้ร่วมทุนเสียงข้างน้อย คุณก็อาจหาทางสร้าง ในอนาคต เป็นการตอบแทนผลประกอบการที่ดีด้านสิทธิมนุษยชน
จุดคานงัดด้วยวิธีอื่นๆ อาทิ • ร่วมมือกับคู่ค้าในการหาคำาตอบว่า ธรรมเนียมการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท
• ส่งคนเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทร่วมทุน ของคุณนั้นสนับสนุนหรือเป็นอุปสรรคต่อการแสดงความรับผิดชอบที่จะ
• เสนอให้มีเงื่อนไขการออกเสียงพิเศษสำาหรับประเด็นที่เป็น เคารพสิทธิมนุษยชน จัดการแก้ไขแรงจูงใจทางลบใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น
ความเสี่ยงสำาคัญด้านสิทธิมนุษยชน เช่น การได้และใช้ที่ดิน • ช่วยผู้รับเหมาในการพัฒนาความรู้และระบบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะ
การรักษาความปลอดภัย หรือสถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถเคารพสิทธิมนุษยชนได้
62 63