Page 146 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 146

รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑



            การประเมินสถานการณ์ ปัญหาและอุปสรรค                 ข้อเสนอแนะ
            ประเทศไทยให้ความส�าคัญกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน      ๑. รัฐควรเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและ
            กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเป็น    ปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหาย
            หน่วยงานหลักในการส่งเสริมและคุ้มครองนักปกป้อง       พ.ศ. .... เพื่อให้มีการประกาศใช้บังคับโดยเร็ว และเพื่อเป็น

            สิทธิมนุษยชนและมีการด�าเนินการหลายประการ ทั้งการ    หลักประกันให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้รับการคุ้มครอง
            จัดท�าคู่มือส�าหรับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งคณะ  สิทธิดียิ่งขึ้น  สอดคล้องกับค�ามั่นโดยสมัครใจภายใต้
            ท�างานเพื่อคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เสี่ยงต่อ  กระบวนการ UPR รอบที่ ๒ ที่ก�าหนดให้มีการจัดท�า
            การถูกละเมิด และที่ส�าคัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่าน  มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันความรุนแรงและ

            ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา   การก่ออาชญากรรมต่อบุคคลเหล่านี้
            ความอาญา (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ซึ่งจะช่วยคุ้มครองนักปกป้อง
            สิทธิมนุษยชนกรณีมีการฟ้องคดีโดยไม่สุจริตหรือฟ้อง    ๒. กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
            เพื่อกลั่นแกล้ง ประกอบกับมีการยกร่างพระราชบัญญัติ   ควรก�าหนดให้มีมาตรการส่งเสริมและคุ้มครองนักปกป้อง

            ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคล      สิทธิมนุษยชนไว้ในแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๔
            สูญหาย พ.ศ. .... อันจะเป็นหลักประกันท�าให้นักปกป้อง  (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖)
            สิทธิมนุษยชนได้รับการคุ้มครองมากยิ่งขึ้น การด�าเนินการ
            เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม         ๓.  กระทรวงยุติธรรมควรด�าเนินการแก้ไขระเบียบ        บทที่ ๔

            การทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... มีความคืบหน้า   คณะกรรมการกองทุนยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
            ที่ส�าคัญจากการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติรับ  เงื่อนไขในการขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ�าเลย
            หลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม    พ.ศ.  ๒๕๕๙  โดยการยกเลิกข้อความที่ให้อ�านาจ
            ในแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๖๑   คณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือค�านึงถึงสาเหตุหรือ

            ไม่ได้ก�าหนดกลุ่มนักปกป้องสิทธิมนุษยชนไว้เป็นการเฉพาะ  พฤติการณ์ของผู้ยื่นค�าร้องว่าเป็นผู้ที่น่าเชื่อว่ามิได้กระท�า
            แม้ว่าในรายงานทบทวนสถานการณ์ของประเทศไทย            ความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ เนื่องจากการก�าหนด
            ภายใต้กระบวนการ UPR รอบที่ ๒ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ    หลักเกณฑ์ไว้เช่นนี้ถือเป็นการให้อ�านาจวินิจฉัยความผิด
            ให้ค�ารับรองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน   ของผู้ยื่นค�าขอรับความช่วยเหลือล่วงหน้าแทนศาล

            ที่เสนอโดยประเทศต่าง ๆ ไว้หลายประการ  รวมทั้ง       อันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและอาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง การประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของบุคคล ๕ กลุ่ม
                                                  ๒๗๖
            เมื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน   ความช่วยเหลือของประชาชนในการด�าเนินคดี
            พบว่าในระยะหลังเกิดเหตุการณ์ฟ้องคดีนักปกป้อง
            สิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้นและการช่วยเหลือโดยการให้เงิน

            จากกองทุนยุติธรรมแก่นักปกป้องสิทธิมนุษยชน
            ยังมีข้อจ�ากัดบางประการ



















            ๒๗๖  จาก ข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยได้รับและค�ามั่นโดยสมัครใจภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ ๒. หน้าเดิม.


                                                                                                              145
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151