Page 80 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
P. 80
บทที่ ๒ ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐
ขณะเกิดเหตุมารดาของผู้ร้องได้แจ้งต่อผู้ถูกร้องว่า คดีที่ผู้ถูกร้องเข้าจับกุมตัวผู้ร้องนั้น ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดได้มีค�าพิพากษา
ยกฟ้องแล้ว ตามคดีหมายเลขด�าที่ ๔๔๐๙/๒๕๕๗ คดีหมายเลขแดงที่ ๓๙๒๑/๒๕๕๘ และสามารถสอบถามข้อมูลได้จาก
ทนายความของผู้ร้อง แต่ผู้ถูกร้องยังจับกุมและน�าตัวผู้ร้องไปคุมขังที่สถานีต�ารวจภูธร ก. จังหวัดร้อยเอ็ด จนถึงเวลาเช้า
ของวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูลและไม่ให้ผู้ร้องประกันตัว ผู้ถูกร้องได้ชี้แจงว่า เหตุที่ผู้ถูกร้อง
จับกุมผู้ร้องนั้น เนื่องจากผู้ถูกร้องได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบตรวจสอบหมายจับค้างเก่าของส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ
พบว่า มีข้อมูลหมายจับของผู้ร้องปรากฏอยู่ในระบบฐานข้อมูล จึงด�าเนินการจับกุมตามหมายจับ ต่อมาผู้ถูกร้องได้ชี้แจงข้อ
เท็จจริงและจ่ายค่าชดเชยเยียวยาความเสียหายจากการกระท�าดังกล่าวแก่ผู้ร้อง เป็นจ�านวน ๑๐,๐๐๐ บาท แล้ว ผู้ร้องไม่ บทที่ ๒
ประสงค์จะด�าเนินคดีใด ๆ ต่อไป การกระท�าดังกล่าวของผู้ถูกร้องจึงเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่เมื่อผู้ร้องได้รับการ
แก้ไขและเยียวยาผลกระทบอันเกิดจากการกระท�าของผู้ถูกร้องและไม่ประสงค์จะด�าเนินคดีแล้ว จึงให้ยุติเรื่อง อย่างไร
ก็ตาม การใช้อ�านาจของผู้ถูกร้องในการจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระท�าความผิดนั้น อาจมีการกระท�า
ที่กระทบต่อสิทธิมนุษยชน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นกรณีนี้อีก จึงเห็นควรก�าหนดมาตรการการ
แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ ด�าเนินการภายใน ๖๐ วันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ดังนี้
มาตรการการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน
(๑) ควรปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสถานะของผู้ต้องหาตามหมายจับให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
(๒) ก�าชับสถานีต�ารวจทุกแห่ง ให้ความร่วมมือในการชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน กรณีที่มีหนังสือสอบถาม
จากส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอย่างรอบด้านและเป็นธรรม
ความส�าเร็จ/ความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
สถานีต�ารวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดแจ้งผลด�าเนินการว่า ได้สั่งการให้สารวัตรสถานีต�ารวจภูธร ก. ตรวจสอบข้อเท็จ
จริงแล้วสรุปสาระส�าคัญได้ว่า เจ้าหน้าที่ต�ารวจได้ปฏิบัติตามหน้าที่สุจริตถูกต้องแล้ว ประกอบกับผู้ร้องได้ท�าความเข้าใจกับ
เจ้าหน้าที่ผู้จับกุมเป็นที่เข้าใจดีไม่ติดใจในประเด็นดังกล่าว และได้ถอนเรื่องร้องเรียนไปจากส�านักงานยุติธรรมแล้ว
กรณีที่ ๙ สิทธิในกระบวนการยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในทรัพย์สิน กรณีกล่าวอ้างว่า
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์สินของกลาง
ประเด็นการร้องเรียน
ผู้ร้องได้ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีกล่าวอ้างว่า ผู้ร้องเป็น
นักโทษเด็ดขาดชาย ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจ�ากลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี ถูก
เจ้าหน้าที่ต�ารวจ กองบัญชาการต�ารวจปราบปรามยาเสพติด (ผู้ถูกร้อง)
จับกุมในความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ใน
ระหว่างถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์สินของผู้ร้องไป แต่ไม่ปรากฏว่ามี
รายการทรัพย์สินดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สินของกลางที่ยื่นฟ้องคดีต่อศาล
และมีทรัพย์สินบางรายการที่เจ้าหน้าที่แจ้งต่อศาลว่าได้ส่งคืนให้แก่ญาติ
ของผู้ร้องแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง การกระท�าดังกล่าวเป็นการกระท�าความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | 79