Page 69 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 69
๑) สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ที่ได้รับการประกันตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย ก่อนพุทธศักราช ๒๕๖๐
(๑) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ได้สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการประกันสิทธิและเสรีภาพ
ของประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ (หรือพฤษภาทมิฬ) ส่งผลให้ประชาชนมีความตื่นตัว
ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพอย่างกว้างขวาง เกิดกระแสการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการ
พัฒนาประชาธิปไตย (คพป.)” ศึกษารัฐธรรมนูญของประเทศต่าง ๆ ที่มีความก้าวหน้าและมีพัฒนาการด้านประชาธิปไตย
ที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย โดยน�าเสนอเป็นเอกสาร “กรอบความคิดหลักในการเรียบเรียงบทบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญตามแนว
รัฐธรรมนูญนิยม (Constitutionalism)” ประกอบกับช่วงเวลาของการจัดท�ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๔๐ แนวคิดพัฒนาการเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ได้แพร่หลายอย่างกว้างขวางในสังคมไทย ประชาชน
จึงมีส่วนร่วมอย่างส�าคัญในการยกร่าง และขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวให้ผ่านการยอมรับของรัฐสภา จนได้รับการ
ขนานนามว่า “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มีเจตนารมณ์เพื่อ
แก้ปัญหาทางการเมืองไทยทั้งระบบ ๓ ประการ คือ ๑) การเปลี่ยนการเมืองของนักการเมืองให้เป็นการเมืองภาคพลเมือง
โดยได้เพิ่มสิทธิและเสรีภาพใหม่ ๆ และความเสมอภาคให้กับประชาชน การท�าให้สิทธิเสรีภาพเป็นจริงในทางปฏิบัติ
รวมถึงการเพิ่มหน้าที่ของรัฐและการขยายการมีส่วนร่วมของประชาชน ๒) การท�าให้ระบบการเมืองและระบบราชการ
มีความสุจริตและชอบธรรมในการใช้อ�านาจ และการเพิ่มอ�านาจพลเมืองในการควบคุมตรวจสอบการใช้อ�านาจรัฐ และ
๓) การท�าให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและรัฐสภามีประสิทธิภาพ ซึ่งเจตนารมณ์ทั้งสามประการนี้ ปรากฏชัดเจนในค�าปรารภ
๒๐
ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ๒๑
“... ภายหลังจากนั้น สภาร่างรัฐธรรมนูญได้จัดท�าร่างรัฐธรรมนูญโดยมีสาระส�าคัญ เป็นการส่งเสริมและ
คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองและตรวจสอบการใช้อ�านาจรัฐเพิ่มขึ้น
ตลอดทั้งปรับปรุงโครงสร้างทางการเมือง ให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ โดยได้ค�านึงถึงความ
คิดเห็นของประชาชนเป็นส�าคัญ ...”
รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงเปลี่ยนแนวคิดที่ว่า สิทธิเสรีภาพของบุคคลจะมีอยู่เฉพาะที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้โดยตรงเท่านั้น
ไปสู่แนวคิดที่ขยายกว้างขึ้น คือ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลมีอยู่แม้ไม่ได้รับการรับรองไว้โดยตรงในรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้
ศาลรัฐธรรมนูญสามารถน�าสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาใช้ในการวินิจฉัยคดีได้ โดยมีหลักการที่ส�าคัญ
คือ “การยึดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลเป็นหลัก การจ�ากัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นเป็นข้อยกเว้น” ๒๒
ส�าหรับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ซึ่งก�าหนดขึ้นเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๔๐ เป็นบทบัญญัติที่มีหลักการใหม่ แตกต่างจากแนวนโยบายแห่งรัฐที่ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ฉบับก่อนหน้า กล่าวคือ มีลักษณะเป็นแนวนโยบายพื้นฐาน ซึ่งเป็นแนวทางในการตรากฎหมายและการก�าหนด
นโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมิใช่แนวนโยบายทั่วไปที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาหรือสถานการณ์
๒๐ จาก ถอดบทเรียนรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐, โดย นุกูล สัญฐิติเสรี, ม.ป.ป., ม.ป.ท.
๒๑ จาก เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐), โดย มนตรี รูปสุวรรณ, ม.ป.ป., ม.ป.ท.
๒๒ จาก เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ, โดย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, ม.ป.ป., ม.ป.ท.
68 | รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐