Page 31 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 31
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มีบทบัญญัติด้านแรงงานอันเกี่ยวเนื่องกับการด�าเนินธุรกิจปรากฏ
ตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๔๒
ในปี ๒๕๖๐ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นและความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน
ที่เกิดจากการด�าเนินการของภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปรับปรุงแก้ไขพระราชก�าหนดการประมง (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชก�าหนดการบริหารจัดการการท�างานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงเจตจ�านงทาง
การเมืองของนายกรัฐมนตรีในการขับเคลื่อนหลักการ UNGPs รวมถึงการมีบัญชาให้คณะกรรมการนโยบายและก�ากับ
ดูแลรัฐวิสาหกิจขับเคลื่อนให้รัฐวิสากิจน�าหลักการ UNGPs ไปปรับใช้ การพัฒนาแผนปฏิบัติการแห่งชาติว่าด้วยธุรกิจและ
สิทธิมนุษยชน (NAP) เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามหลักการ UNGPs อย่างจริงจัง และการมีมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ ๑๖
พฤษภาคม ๒๕๕๙ และ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐) ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอแนะของ กสม. จากการตรวจสอบการละเมิด
สิทธิมนุษยชนจากการลงทุนหรือโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐบาลหรือธุรกิจไทยในประเทศเมียนมาร์ และกัมพูชา
ทั้งนี้ แม้ว่า รัฐบาลและธุรกิจโดยส่วนใหญ่จะตื่นตัวเรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น แต่ยังพบว่า มีการปฏิบัติที่เป็น
รูปธรรมไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการน�ากระบวนการสอบทานการกระท�าที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนอย่าง
รอบด้าน (Human Rights Due Diligence : HRDD) ไปใช้ก�ากับดูแลกิจกรรมต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทาน (supply chain)
และตามภาพรวมของการประกอบธุรกิจ ในขณะที่การเยียวยาโดยส่วนใหญ่ ยังเป็นผลมาจากการด�าเนินการในกระบวนการ
ทางศาล (judicial process) มากกว่ากระบวนการนอกศาล (non-judicial process) โดยมีลักษณะเป็นค่าชดเชย
ค่าทดแทน หรือค่าเสียหายต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา และทรัพยากรต่าง ๆ ในการต่อสู้ ด�าเนิน และบังคับคดี และยังมี
ข้อกังวลเรื่องการดูแลผลกระทบต่าง ๆ ในระยะยาว ตลอดจนการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
กสม. เสนอว่า รัฐควรก�าหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขผลกระทบต่าง ๆ จากการด�าเนินธุรกิจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสิทธิชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและสุขภาพของสังคมโดยรวม พร้อมทั้งจัดท�ามาตรการ
ก�ากับดูแลการลงทุนในต่างประเทศของผู้ลงทุนหรือโครงการพัฒนาสัญชาติไทยให้เคารพต่อหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน
พร้อมกับก�าหนดกลไกในการติดตามบังคับใช้ การก�าหนดหรือสร้างแรงจูงใจให้หน่วยงานรัฐและเอกชนน�ากระบวนการ
HRDD ไปใช้ก�ากับดูแลกิจกรรมต่าง ๆ ในภาพรวม และในห่วงโซ่อุปทาน โดยครอบคลุมถึงโครงการหรือการลงทุน
ขนาดใหญ่ของรัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงโครงการของเอกชนไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ทั้งที่เกิดขึ้น
ในประเทศไทยหรือในประเทศเพื่อนบ้าน
30 | รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐