Page 177 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 177

ในการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รุ่นที่ ๑  รวมทั้งมีการออกมาตรการในการช่วยเหลือผู้เสียหาย
                                                             ๓๓๑
           ในการส่งเสริมการมีงานท�า โดยค�านึงถึงสิทธิของผู้เสียหาย เป็นต้น ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
           (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) สั่งการให้หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมท�างานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
           ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้มีผลเป็นรูปธรรมภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ โดยเน้นสร้างความเข้าใจ ท�างาน

           ร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมให้มากขึ้น และกวดขันเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดไม่ให้เกี่ยวข้องกับการกระท�าผิดกฎหมาย ๓๓๒


           การประเมินสถานการณ์ ปัญหาและอุปสรรค



                การค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นมีทั้งกรณีที่คนไทยเป็นผู้เสียหายและกรณีที่คนต่างด้าวเป็นผู้เสียหาย และบางกรณีมีเจ้าหน้าที่
           ของรัฐจ�านวนมากเข้าไปมีส่วนร่วมกับขบวนการค้ามนุษย์ด้วย ดังข้อมูลในคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาข้างต้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์
           การค้ามนุษย์และมีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในบางกรณีพบว่าสิทธิในกระบวนการยุติธรรมไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม
           เช่น กรณีสถานบริการ อาบ อบ นวด นาตารี ที่มีค�าร้องเรียนต่อ กสม. โดยหญิงต่างด้าวซึ่งศาลพิพากษาลงโทษปรับและ

           หญิงทั้งหมดได้ช�าระค่าปรับแล้ว แต่ยังถูกกักตัวไว้ ณ สถานกักตัวคนต่างด้าว อันอยู่ในการควบคุมดูแลของส�านักงาน
           ตรวจคนเข้าเมืองในฐานะพยานคดีค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ต้องตามเหตุที่สามารถกักตัวได้ตามมาตรา ๑๙ และมาตรา ๕๔ แห่ง
           พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒  จึงเป็นการลิดรอนเสรีภาพของบุคคลขัดกับข้อ ๙ ของกติกา ICCPR  และการกักตัวไว้
                                         ๓๓๓
                                                                                              ๓๓๔

































           ๓๓๑  ข้อมูลจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
           ๓๓๒  จาก “บิ๊กป้อม” สั่งเข้มปราบปรามการค้ามนุษย์กวดขันคุมเข้มวินัยก�าลังพล, โดย ไทยรัฐออนไลน์, ๒๕๖๐. สืบค้นจาก www.thairath.co.th/content/1052292
           ๓๓๓  มาตรา ๑๙ ในการตรวจและพิจารณาว่าคนต่างด้าวผู้ใดต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรหรือไม่ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ�านาจพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวผู้นั้นไปพักอาศัยอยู่ ณ ที่
              ที่เห็นสมควร โดยให้ค�ารับรองว่าจะมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบค�าสั่งตามวัน เวลา และสถานที่ที่ก�าหนดก็ได้ หรือถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรจะเรียกประกันหรือเรียกทั้ง
              ประกันและหลักประกันก็ได้ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะกักตัวผู้นั้นไว้ ณ สถานที่ใดตามที่เห็นเหมาะสมเพื่อด�าเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ก็ได้...
              มาตรา ๕๔ คนต่างด้าวผู้ใดเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตนั้นสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอก
              ราชอาณาจักรก็ได้...
              ...ในกรณีที่มีค�าสั่งให้ส่งตัวคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักรแล้วในระหว่างรอการส่งกลับพนักงานเจ้าหน้าที่มีอ�านาจอนุญาตให้ไปพักอาศัยอยู่ ณ ที่ใด โดยคนต่างด้าวผู้นั้นต้องมา
              พบพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวัน เวลา และสถานที่ที่ก�าหนด โดยต้องมีประกัน หรือมีทั้งประกันและหลักประกันก็ได้ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะกักตัวคนต่างด้าวผู้นั้นไว้ ณ สถานที่ใดเป็นเวลา
              นานเท่าใดตามความจ�าเป็นก็ได้ ค่าใช้จ่ายในการกักตัวนี้ให้คนต่างด้าวผู้นั้นเป็นผู้เสีย...
           ๓๓๔  กติกา ICCPR
              ข้อ ๙
              ๑. บุคคลทุกคนมีสิทธิในเสรีภาพและความปลอดภัยของร่างกาย บุคคลจะถูกจับกุมหรือควบคุมโดยอ�าเภอใจมิได้ บุคคลจะถูกลิดรอนเสรีภาพของตนมิได้  ยกเว้นโดยเหตุและโดยเป็นไป
              ตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ...


           176 |  รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182