Page 168 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 168
บทที่ ๕ การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน
ของบุคคล ๖ กลุ่ม
กลุ่มที่สี่ กลุ่มเด็กนักเรียนไร้รัฐ และไร้สัญชาติ (เด็กนักเรียนถือบัตรที่ส�ารวจโดยสถานศึกษาในรหัส G รหัส P และในโรงเรียน
ต�ารวจตระเวนชายแดน) ที่ต้องการจัดการก�าหนดสถานะทางกฎหมาย กลุ่มที่ห้า กลุ่มตกหล่นการส�ารวจ หรือได้รับการส�ารวจ
ยังไม่มีการจัดท�าทะเบียนและบัตรประจ�าตัวบุคคลตามการส�ารวจกลุ่มบุคคลประเภทที่ ๑ ตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะ
และสิทธิของบุคคล วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๔๘) (กลุ่มซึ่งควรเป็นบุคคลประเภทรหัส ๐ กลุ่ม ๘๙) และ กลุ่มที่หก กลุ่มชาติพันธุ์
และชนเผ่าพื้นเมืองที่ได้รับการแก้ไขปัญหาความไร้รัฐ โดยบันทึกตัวบุคคลในระบบทะเบียนราษฎร ตามมาตรา ๓๘ วรรค ๒
แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ (บุคคลประเภทรหัส ๐ กลุ่ม ๐๐) แต่ยังไม่มีการก�าหนดสถานะ
รวมถึงการจ�าหน่ายสถานะบุคคลแบบเหมารวม เห็นสมควรให้ (๑) น�าโมเดลในการแก้ไขปัญหา หรือการคัดกรอง
โดยการจัดท�าบันทึกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ และภาควิชาการในบางพื้นที่ อาทิ การท�า ป.ค. ๑๔ ของกลุ่มคนไทย
พลัดถิ่นในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และชุมพร ซึ่งให้บุคลากรสถาบันการศึกษา (คณะอาจารย์ และนักศึกษา)
ที่สอบปากค�าต้องลงนามรับรองเอกสารดังกล่าวด้วย (อาทิ มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต้องลงนาม
รับรองใน ป.ค.๑๔ ด้วย) (๒) กระจายอ�านาจ โดยด�าเนินการควบคู่กับการพัฒนาระบบ และความพร้อมของบุคลากร
ผู้ปฏิบัติงานในการด�าเนินงานด้านสิทธิและสถานะ การพัฒนาองค์ความรู้ คู่มือการปฏิบัติหน้าที่ เครื่องมืออุปกรณ์
รวมถึงการปรับแก้กฎหมายที่สอดคล้องและเหมาะสมกัน เพื่อสะสางค�าร้อง ในขณะที่ระบบการจัดการทางทะเบียนภายหลัง
ปี ๒๕๕๕ น�าระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์มาใช้ แต่ยังเป็นหน้าที่ของส�านักงานเขต หรืออ�าเภอเท่านั้น มิใช่ส�านักทะเบียน
ท้องถิ่น (เทศบาล/ท้องถิ่น) ซึ่งท�าให้ชาวบ้านไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและสถานะ มีข้อติดขัดทางกฎหมาย ทั้งในส่วนที่ก�าหนดให้
สภาท้องถิ่นต้องเห็นชอบ และมีมติทั้งการให้
และยินดีรับในการปฏิบัติหน้าที่ทางทะเบียนดังกล่าว
และการแบ่งเขตอ�านาจในการด�าเนินการตาม
กฎหมายทะเบียนราษฎร และ (๓) ในบางกรณี
มีความจ�าเป็นต้องใช้การฟ้องร้องด�าเนินคดีเพื่อ
ให้เกิดการคุ้มครองผลกระทบ หรือความเสียหาย
อันเกิดการออกค�าสั่งทางปกครอง (ในลักษณะ
เดียวกับกรณีการจ�าหน่ายรายการบุคคลออกจาก
ท.ร. ๑๔ อ�าเภอแม่อาย จ�านวน ๑,๒๔๓ คน ในปี ๒๕๔๕)
ก็ควรด�าเนินการโดยการฟ้องร่วมกันเป็นกลุ่ม
(Class Action) และขอให้พิจารณาเพิกถอนค�าสั่งที่ออกโดยมิชอบ และกระทบกับสิทธิของบุคคล
บทที่
กลุ่มที่เจ็ด ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมหรือชนพื้นเมืองที่มีวิถีชีวิตการท�ากินตามบรรพบุรุษ เห็นสมควรให้รัฐบาลพิจารณา ๕
(๑) ยกระดับการด�าเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง อาทิ มติคณะรัฐมนตรี วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๓
(การฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล) และมติคณะรัฐมนตรี วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ (ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง) โดยน�าหลักการ และ
เจตนารมณ์ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยเฉพาะมาตรา ๗๐ และ (๒) พัฒนา
และรับรองกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมหรือชนพื้นเมือง อาทิ พระราชบัญญัติ
คุ้มครองเขตพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษของชาติพันธุ์และชนพื้นเมือง และพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมือง เป็นต้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | 167