Page 55 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 55

๓๘




                            ๓๐
                   Initiative)  เพื่อใช้ในภารกิจของรัฐบาลในการต่อสู้กับภัยคุกคามต่างๆ จากการค้ายาเสพติด (drug
                   trafficking) การก่ออาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งขึ้น (transnational  organized  crime) และการฟอก

                   เงิน (money laundering)
                                 อย่างไรก็ตาม มิเพียงแต่การกวาดล้างยาเสพติดด้วยความรุนแรงโดยก าลังทหารและ
                   ต ารวจจ านวนมากจะมิได้ช่วยให้ความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างเข้มแข็ง แต่ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า
                   ตลอดระยะเวลาของการด าเนินนโยบายท าสงครามกับยาเสพติดของรัฐบาลที่มีนายเฟลิเป้ คาลเดรอน
                   เป็นประธานาธิบดีนั้น กล่าวคือ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. ๒๐๐๖ - ค.ศ. ๒๐๑๒ (พ.ศ. ๒๕๔๙ - ๒๕๕๕)

                   มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและในวงกว้างทั่วประเทศเม็กซิโก นอกจากการ
                   เสียชีวิตดังกล่าวแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุดอันเป็นผลกระทบจากการกวาดล้าง
                   ยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลเห็นจะได้แก่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๗ เป็นต้นมา มีคดีร้องเรียนเกี่ยวกับคน

                   สูญหายเป็นจ านวนไม่ต่ ากว่า ๒๕๐ คดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนสูญหายเป็นจ านวนหลายหมื่นคน
                   ทั้งนี้ ในจ านวนนี้ มีไม่ต่ ากว่า ๑๔๙ คดีที่ (องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนมีหลักฐานแน่ชัด)
                   พบว่าเป็น “การบังคับให้บุคคลสูญหาย” (enforced  disappearance) เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ
                   มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระท าดังกล่าว

                                 ในภาพรวม ตัวอย่างเช่น มลรัฐ Coahuila มีบุคคลสูญหายเฉพาะในมลรัฐนี้เป็นจ านวน
                                                                                    ๓๑
                   ๑,๘๓๕ คน นับแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. ๒๐๐๖ - เดือนเมษายน ค.ศ. ๒๐๑๒  หรือตามบัญชีรายชื่อที่
                   จัดท าขึ้นโดยกระทรวงมหาดไทยและส านักงานอัยการสหพันธรัฐ (the Federal Prosecutor’s Office)
                   ปรากฏชื่อบุคคลผู้สูญหายหรือหายตัวไปในระหว่างช่วงเวลาที่นายเฟลิเป้ คาลเดรอน เป็นประธานาธิบดี

                   เป็นจ านวนมากกว่า ๒๕,๐๐๐ คนซึ่งยังคงไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งในจ านวนนี้มีทั้งผู้หญิงและเด็กรวม
                   อยู่ด้วย
                                 ในเชิงรายคดี ในส่วนนี้ อาจพอยกตัวอย่างของคดีการบังคับบุคคลให้สูญหาย
                   ในกรณีต่างๆ เพื่อเป็นกรณีศึกษาที่แสดงถึงสภาพการณ์โดยรวมของการด าเนินนโยบายกวาดล้างยาเสพติด

                   ของรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยแบ่งออกเป็นห้ากรณีใหญ่ๆ ได้แก่
                                  (๑) กรณีการเข้าไปมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของรัฐในการปฏิบัติการ
                   อันท าให้บุคคลสูญหาย

                                  (๒) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่รีบด าเนินการใดๆ ที่จ าเป็นโดยทันทีภายหลังเกิดการ
                   สูญหายของบุคคล
                                  (๓) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจกระท าการให้เกิดข้อผิดพลาดหรือท าข้อมูลเท็จ
                   อันเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนเพื่อติดตามค้นหาผู้สูญหาย
                                  (๔) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวโทษหรือกล่าวหาบุคคลผู้สูญหายไป และ

                                  (๕) กรณีมีความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมมือกับกลุ่มอาชญากรรม



                          ๓๐
                             รายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางปฏิรูปและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลเม็กซิโกผ่านโครงการตาม
                   ข้อริเริ่มเมริด้า โปรดดู www.mfa.go.th/fealac/thai_latin_america_focus_detail.phpMsection=2&id=44
                   (สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗)
                          ๓๑
                             โปรดดู Human Rights Watch, Mexico’s disappeared, The Enduring Cost of a Crisis Ignored,
                   อ้างแล้ว, หน้า ๒.
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60