Page 50 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 50

๓๓




                   ด้านสิทธิมนุษยชนของไทยอยู่โดยตลอด และต้องการให้ทางการไทยชี้แจงเรื่องการละเมิดสิทธิ
                   มนุษยชนอันเนื่องมาจากการด าเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างรุนแรง ซึ่งรายงานสถานการณ์

                   สิทธิมนุษยชนประจ าปีที่ไทยมีพันธะต้องส่งให้องค์การสหประชาชาติในฐานะที่เป็นคณะกรรมาธิการ
                   ด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาตินั้น มิได้ให้รายละเอียดหรือค าชี้แจงที่น่าพอใจ
                   ในเรื่องการกระท าที่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่าใดนัก
                                 ดังนั้น ในเดือนพฤษภาคม  ๒๕๔๘ คณะกรรมาธิการชุดนี้ได้ส่งเอกสาร
                   ถึงรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อขอให้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ถึง ๒๖ ประเด็น ซึ่งพิจารณาแล้วว่า

                   เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามสนธิสัญญาว่าด้วยการให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                   แห่งสหประชาชาติที่ไทยได้ให้สัตยาบันรับรองไว้ โดยได้ผนวกเอาเรื่องการท าสงครามกับยาเสพติด
                   เข้าไว้ด้วย ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ต้องการให้รัฐบาลไทยชี้แจงมาตรการในการคุ้มครองสิทธิของ

                   ผู้ต้องสงสัยที่ถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย และขั้นตอนการสอบสวนยอดผู้เสียชีวิตจาก
                   การท าสงครามกับยาเสพติด ตลอดจนอธิบายถึงวิธีการเยียวยาทางกฎหมายต่อเหยื่อผู้ถูกละเมิดสิทธิ
                   มนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย และเปิดเผยข้อมูลการปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยว่าเป็น
                   ผู้ก่อการร้ายและผู้ติดยาเสพติดที่อยู่ในอารักขาของเจ้าหน้าที่ต า รวจ ทั้งนี้ ทางองค์การสหประชาชาติ

                   ยังคงมีความประสงค์ที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในช่วงวันที่ ๒๖ พฤษภาคม –  ๓ มิถุนายน
                   ๒๕๔๘ ด้วย
                                 คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย (Asian Human Rights Commission:
                   AHRC)  ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศได้ตั้งค าถามแก่รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณฯ

                   เช่นเดียวกันว่า เพราะเหตุใดหลักกฎหมายจึงกลายเป็นเหยื่อของการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด
                   โดยได้กล่าวหารัฐบาลไทยว่า ได้เปิดทางให้มีการสังหารผู้ถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด
                   ได้อย่างปราศจากการถูกตั้งข้อหาจ านวนมากกว่า ๒ พันคน และเห็นว่า ผลของการวิสามัญฆาตกรรม
                   จะน าไปสู่ปัญหาที่มีความซับซ้อนมากยิ่งกว่าความเสียหายที่เกิดจากการค้าและการเสพยาเสพติด

                   นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการดังกล่าวยังได้น าเสนอรายงานอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณีที่รัฐต่างๆ
                   ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งหมายรวมถึงประเทศไทยด้วย เพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงส่งผลให้เกิด
                   วงจรการกระท าผิดอย่างซ้ าซากและท าให้ยากต่อการแก้ปัญหามากยิ่งขึ้น และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ

                   ได้ออกมายอมรับเกี่ยวกับการวิสามัญฆาตกรรม เป็นสิ่งที่ท าให้ภาพลักษณ์ของไทยเป็นไปในเชิงลบ
                   เพราะถูกมองว่าเป็นประเทศที่ละเลยหลักกฎหมายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนั้น
                   คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียจึงได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ สร้างความมั่นใจแก่
                   ประชาคมโลกว่า กระบวนการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมของไทยต้องได้รับการปฏิบัติตามหลัก
                   แห่งกฎหมาย การวิสามัญฆาตกรรมที่เกิดขึ้นควรต้องยุติลง และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง

                   พัวพันกับการกระท าความผิดด้านยาเสพติดต้องได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมรวมทั้งต้อง
                   อนุญาตให้มีการตรวจสอบจากนานาชาติได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนและเป็นอิสระภายใต้การก ากับดูแล
                   ขององค์การสหประชาชาติด้วย

                                 การวิพากษ์วิจารณ์ขององค์กรต่างประเทศที่เฝ้าระวังด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน
                   มีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน คือ การขึ้นบัญชีด า การวิสามัญฆาตกรรม และการฆ่าตัดตอนที่เกิดขึ้น
                   ในช่วงของการประกาศสงครามกับยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณฯ เป็นการกระท าที่รุนแรง
                   เกินกว่าเหตุ ถึงขั้นเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมุ่งเน้นประสิทธิผล
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55