Page 48 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 48
๓๑
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนเห็นว่า การด าเนินงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ของรัฐบาล
เป็นการกระท าที่ผิดกฎหมายและท าลายกระบวนการยุติธรรมในประเด็นต่างๆ ได้แก่ ประเด็นแรก
รัฐบาลได้จัดตั้ง ศตส. ขึ้นมาเพื่อให้เกิดการรวมศูนย์อ านาจในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็น
ข้อดีในเรื่องของการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
มากกว่า ๒๐ ฉบับ และเมื่อพิจารณาในเรื่องของการปฏิบัติแล้ว รัฐบาลมิได้มีมาตรการในการบังคับใช้
กฎหมายเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งขาดการก ากับดูแลให้การปฏิบัติด าเนินไปตาม
ครรลองของกฎหมายด้วย
การที่รัฐบาลมอบอ านาจให้ ศตส. ระดับจังหวัดและระดับนครบาล ซึ่งอยู่ใน
การบังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทย จัดท าบัญชีรายชื่อผู้ต้องสงสัยว่าพัวพันกับการค้ายาเสพติด
นั้น ถือว่าเป็นการกระท าที่ผิดกฎหมายเนื่องจากกฎหมายของไทยรองรับเพียงเฉพาะอ านาจหน้าที่ของ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การฟอกเงินเท่านั้นในการจัดท าบัญชีรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด โดยที่มิได้
ครอบคลุมถึงหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย
การระบุลงไปในตอนท้ายของหนังสือที่แจ้งให้ผู้ที่ถูกขึ้นบัญชีมารายงานตัว
ต่อ ศตส. ว่า “ผู้ใดฝ่าฝืน ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจะไม่รับรองความปลอดภัยในทุกกรณี”
แสดงถึงการกระท าที่เป็นการคุกคามและข่มขู่ประชาชนอย่างชัดเจน โดยปกติภายหลังจากที่การ
วิสามัญฆาตกรรมได้เกิดขึ้นแล้ว ต้องมีกระบวนการตามกฎหมายในการชันสูตรพลิกศพโดยมี
เจ้าพนักงาน ๔ ฝ่ายร่วมกัน และต้องท าส านวนการเสียชีวิตส่งให้อัยการน าคดีขึ้นสู่การพิจารณา
ในชั้นศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๐ แต่จากการเก็บข้อมูลของ
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกี่ยวกับจ านวนคดีที่เป็นวิสามัญฆาตกรรมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ –
มีนาคม ๒๕๔๖ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต ๖๐ คน นั้น ปรากฏว่า จ านวน ๔๖ คน ไม่ได้ต่อสู้หรือขัดขืน รวมทั้ง
ไม่มีอาวุธพร้อมที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ต ารวจ และจ านวน ๑๔ คน ตรวจพบอาวุธอยู่กับตัว นอกจากนี้
มีผู้เสียชีวิตบางรายที่ศพถูกเคลื่อนย้ายก่อนหน้าที่เจ้าพนักงาน ๔ ฝ่าย จะมาถึงที่เกิดเหตุเพื่อการ
ชันสูตรพลิกศพ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุการ
เสียชีวิตขาดความครบถ้วนสมบูรณ์ ประเด็นสุดท้าย กรณีการเสียชีวิตที่เป็นผลมาจากการฆ่า
ตัดตอน พบว่า หลายกรณีมีพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า เจ้าหน้าที่เป็นผู้ลงมือกระท าเอง มิใช่การฆ่า
ตัดตอนกันเองระหว่างกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด หรือกลุ่มอิทธิพลที่มีความขัดแย้งกันตามที่รัฐบาลได้ออกมา
แถลง เช่น มีลักษณะการเสียชีวิตที่คล้ายคลึงกัน ชนิดของอาวุธที่ใช้ในการฆาตกรรมเป็นชนิดเดียวกัน
ผู้เสียชีวิตถูกยิงในระหว่างการเดินทางไปหรือกลับจากการรายงานตัว เหล่านี้เป็นต้น ประกอบกับคดี
ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการฆ่าตัดตอนนั้น เจ้าหน้าที่ต ารวจยังไม่สามารถด าเนินการจับกุมหรือหาตัว
ผู้กระท าความผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้
ด้วยเหตุนี้ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนจึงได้เสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการ
ขึ้นมาทบทวนตรวจสอบรายชื่อที่อยู่ในบัญชีด า เร่งติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัดตอนมาด าเนินคดี
ตามกฎหมาย ยุติการใช้ความรุนแรงพร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไข
ปัญหายาเสพติด ควบคุมอุปสงค์ของยาเสพติด ตลอดจนปรับปรุงระบบกฎหมายและกระบวนการ
ยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของ
นายศรีรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้อ านวยการองค์การแอมเนสตี้ ประเทศไทย ที่ต้องการให้รัฐบาลหยุดใช้