Page 47 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 47
๓๐
ด าเนินการตรวจสอบทั้งในส่วนของการด าเนินคดีโดยมิชอบและการเสียชีวิตอันเป็นผลมาจากการ
ประกาศสงครามกับยาเสพติดในช่วงปี ๒๕๔๖ ซึ่งผลการตรวจสอบของกสม. พบว่า มีจ านวน
๕๐ กรณี ที่ผู้เสียชีวิตเป็นผู้บริสุทธิ์ และทางกสม. ได้น าหลักฐานการร้องเรียน รวมทั้งผลการ
ตรวจสอบจ านวน ๔๐ กรณี ส่งให้แก่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วโดยผ่านทางนายสมชาย หอมละออ
ซึ่งด ารงต าแหน่งประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสภาทนายความ
จากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานผลการปฏิบัติงานประจ าปี ๒๕๔๗ ของ
ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวกับการสรุปผลการปราบปรามยาเสพติด
ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณฯ ระบุว่า เพียงแค่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖
คณะกรรมการฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐ
มากถึง ๒๐๗ กรณี และจนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ มีจ านวนค าร้องเรียนรวมทั้งสิ้น ๒๕๖ กรณี
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้รับข้อมูลมาจากการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเป็น
ลายลักษณ์อักษร และส่งเอกสารมาประกอบการพิจารณา ตลอดจนให้ผู้ร้องเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัด
นายอ าเภอ เจ้าหน้าที่ต ารวจ และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่มาให้ถ้อยค าด้วยวาจาอีกครั้ง
ซึ่งคณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการน านโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติมีอยู่ ๔
ประการที่ส าคัญ ได้แก่
ประกำรแรก การขึ้นบัญชีผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นกระท าใน
ระยะเวลาอันสั้นและมิได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรอง ส่งผลให้มีผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการค้า
ยาเสพติดถูกขึ้นบัญชีเป็นจ านวนมาก
ประกำรที่สอง การน าสถิติการจับกุมมาเป็นหลักในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ในระดับจังหวัด ท าให้เจ้าหน้าที่ต้อง “ท ายอด” จึงท าให้เกิดการจับกุม ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกปรักปร าว่า
มีส่วนพัวพันกับเรื่องยาเสพติดโดยอาศัยหลักฐานที่เป็นเท็จ
ประกำรที่สำม การวิสามัญฆาตกรรมหลายกรณีกระท าไปโดยอ้างว่าผู้ที่ถูกวิสามัญฯ
เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงท าให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาพยานหลักฐานที่สมเหตุสมผลมาด าเนินคดีได้
ประการสุดท้าย การเร่งด าเนินการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย
ต้องการท าลายขบวนการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว ท าให้ขาดการสอบสวนว่าทรัพย์สิน
เหล่านั้นได้มาจากการค้ายาเสพติดจริงหรือไม่ จึงท าให้เกิดการร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเสียหายว่า
ทรัพย์สินที่ถูกทางการยึดไปนั้นเป็นทรัพย์มรดกบ้าง หรือได้มาจากการประกอบอาชีพสุจริตบ้าง
ปัญหาทั้งสามประการในข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยึดหลักกระบวนการ
ยุติธรรมอย่างเคร่งครัดในการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณฯ และสมาคมสิทธิ
เสรีภาพของประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านทางบทความของสมาคมฯ เรื่อง “ฆาตกรรมเชิง
๒๖
นโยบาย” กล่าวโจมตีนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณฯ ว่า เป็น
นโยบายที่ละเมิดกฎหมายภายในประเทศ เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.
๒๕๑๙ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔
และกฎหมายระหว่างประเทศเรื่องหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลไทยได้ลงนามรับรองไว้เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๓๙
๒๖
ชุติมา บ ารุงญาติ, “ผลผลกระทบจากการด าเนินนโยบายสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด”
วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, พ.ศ. ๒๕๕๒