Page 195 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 195

๑๗๘




                   ร่วมกันโดยใช้ก าลังประทุษร้ายและใช้อาวุธในการกระท าการอันน ามาซึ่งการสูญเสียชีวิตและการสูญเสีย
                   ทรัพย์สิน อันเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนพลเรือน

                                         กลุ่มบุคคลที่ก่อให้เกิดการสูญเสียหรือความเสียหายจะกระท าการร่วมกันโดย
                   “ใช้ความรุนแรง” เป็นหลัก ไม่ว่าจะโดย “ใช้ก าลังประทุษร้าย” ผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหาย และ
                   โดย “ใช้อาวุธ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธปืนในการด าเนินการ โดยแบ่งหน้าที่กันท าโดยชัดแจ้ง บางคน
                   ในกลุ่มบุคคลนั้นรับหน้าที่ขับรถยนต์เพื่อส่งบุคคลอื่นในกลุ่มเดียวกันมาพบผู้เสียหายหรือญาติของ
                   ผู้เสียหาย และเพื่อรับกลุ่มบุคคลนั้นกลับหรือหนีออกไปภายหลังการด าเนินการกับผู้เสียหายตามเป้าหมาย

                   แล้ว  บางคนรับหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่หรือสังเกตการณ์ บางคนเป็นผู้ท าการประทุษร้ายร่างกายผู้เสียหาย
                   หรือญาติของผู้เสียหายโดยใช้ก าลัง และใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมาสังหารผู้เสียหาย ตลอดจนใช้ก าลังหรือใช้
                   อาวุธข่มขู่ญาติของผู้เสียหาย ตลอดจนบุคคลทั่วไปให้เกิดความหวาดกลัวในความปลอดภัยในชีวิตและ

                   ทรัพย์สินของตน จนส่งผลให้ญาติของผู้เสียหายไม่สามารถที่จะด ารงชีวิตอยู่ ณ ภูมิล าเนาปกติของตนได้
                   และจ าต้องย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากที่อื่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและครอบครัว

                                         (๒.๒) กำรกระท ำต่อชีวิต ร่ำงกำย หรือทรัพย์สินของประชำกรพลเรือน
                                         การประทุษร้ายโดยใช้ก าลังและใช้อาวุธปืนของกลุ่มบุคคลผู้ก่อให้เกิดการ
                   สูญเสียในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งเป็นประชากรพลเรือนอย่างกว้างขวาง ครอบคลุม

                   จังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระหว่างระยะเวลาสามเดือนของ
                   การปฏิบัติการตามนโยบายของรัฐบาล การด าเนินการเหล่านี้จึงเป็นการด าเนินการที่มีประชากรพลเรือน
                   เป็นเป้าหมาย กล่าวคือ การใช้ก าลังประทุษร้ายและใช้อาวุธปืนในการด าเนินการก่อให้เกิดการสูญเสียต่อ
                   ชีวิตและร่างกายของประชากรพลเรือนเป็นจ านวนหลายพันคน และการยึดทรัพย์สินของประชากร

                   พลเรือนเป็นจ านวนมหาศาล โดยมีการฆาตกรรมและการยึดทรัพย์สินของประชากรพลเรือนซ้ าแล้วซ้ าเล่า
                   เป็นการกระท าที่ “มีเป้าหมายล่วงหน้า” โดยชัดแจ้ง กล่าวคือ การกระท าให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต
                   ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นส าคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระท าต่อผู้เสียหาย กลุ่มบุคคล

                   ผู้กระท าการประทุษร้าย กระท าการโดย “มุ่งประสงค์ต่อชีวิต” ของผู้เสียหายเป็นหลัก กล่าวคือ
                   การกระท าให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายหรือการฆาตกรรมผู้เสียหาย หรือการอุ้มหายหรือการท าให้
                   ผู้เสียหายสูญหายไป ดังจะเห็นได้จากเรื่องร้องเรียนต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ผู้เสียหายในเรื่องร้องเรียนทุก
                   เรื่องถูกกระท าให้ถึงแก่ความตาย อันส่งผลให้จ านวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา ๓ เดือนของ
                   การปฏิบัติการของรัฐและองค์กรของรัฐเพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการท าสงครามกับยาเสพติด

                   มีจ านวนสูงผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนและหลังการด าเนินการตาม
                   นโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ในส่วนที่เกี่ยวกับญาติของผู้เสียหาย ผู้กระท าการประทุษร้ายมักจะกระท า
                   การต่อร่างกายของบุคคลในครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหาย หากแต่ “ไม่ประสงค์ต่อชีวิต” เช่น การจับ

                   มัดมือไพล่หลัง การใช้ผ้ามัดปิดปาก การท าร้ายร่างกาย การข่มขู่หรือขับไล่ให้หนีไปจากสถานที่เกิดเหตุ
                                         นอกจากนี้ ดังที่ปรากฏในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง การประทุษร้ายโดยใช้ก าลัง
                   หรือใช้อาวุธปืนของกลุ่มบุคคลผู้กระท าการ ยังขยายไปถึงการยึดทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหาย
                   (และครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหาย) อีกด้วย อีกทั้งในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง การด าเนินการยึด

                   ทรัพย์สินของผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหายเป็นการกระท าของเจ้าหน้าที่ต ารวจในพื้นที่ๆ เกี่ยวข้อง
                   หากแต่มิได้เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยมาตรการปราบปรามยาเสพติดแต่ประการใด
   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200