Page 54 - คู่มือประเมินผลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence Handbook) ของธุรกิจการโรงแรม
P. 54
• คำานึงถึงผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ ไม่เฉพาะแต่ในระดับพื้นที่ แต่ยังรวมถึงมิติอื่นๆ ของการ
ประกอบกิจการ เช่น สถานปลูกสร้าง เส้นทางขนส่ง พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบสะสม หรือ
การเปลี่ยนแปลงที่อาจไม่ได้ตั้งใจแต่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า
• ระบุชนิดและลักษณะของ “ผลกระทบสะสม” ต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเป็นผลกระทบที่อาจไม่ชัดเจน
ตั้งแต่แรก ด้วยการทำาแผนที่สิ่งปลูกสร้างในระยะสั้น และในระยะยาวของบริษัท และคำานึงถึง
ผลกระทบจากโครงการก่อนหน้านั้นของบริษัทด้วย
• หลีกเลี่ยงการนิยาม “ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ” อย่างแคบเกินไป เนื่องจากชุมชน
ที่อยู่ด้านนอกพื้นที่ซึ่งถูกระบุว่า “พื้นที่ผลกระทบจากโครงการ” อาจ “รู้สึก” ว่าพวกเขาได้รับ
ผลกระทบ หรือรู้สึกว่าถูกกีดกันออกจากประโยชน์ของโครงการตามอำาเภอใจของบริษัท
• ประเมินความสำาคัญของโครงการต่อผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่มจากมุมมองของพวกเขาเอง
บางกลุ่มอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
• พิจารณาตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มใดหรือบุคคลใดมีความเปราะบางหรืออยู่ชายขอบ
มากที่สุดในบรรดาผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด และคำานึงว่าบริษัทจะต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษหรือ
ไม่ในการให้พวกเขามีส่วนร่วม
• เวลาระบุตัวแทนของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทของคุณควรให้ความสำาคัญเป็นพิเศษว่า
ตัวแทนเหล่านั้นเป็น “ตัวแทน” มุมมองของผู้มีส่วนได้เสียจริงๆ หรือไม่ บริษัทสามารถไว้วางใจ
ให้สื่อสารผลการเข้ามามีส่วนร่วมกับบริษัท กลับไปยังผู้มีส่วนได้เสียที่พวกเขาเป็นตัวแทนได้หรือไม่
การสร้างกระบวนการปรึกษาหารือที่เหมาะสม
การปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้เสียนั้นจะต้องปรับให้เข้ากับบริบทของท้องถิ่นและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย
ที่คุณต้องไปปรึกษา แนวปฏิบัติโดย IFC ชี้ว่า กระบวนการปรึกษาหารือที่ดีนั้นควรมีลักษณะดังนี้
• พุ่งเป้าไปยังบุคคลที่น่าจะได้รับผลกระทบสูงสุดจากโครงการ
• จัดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อทำาความเข้าใจกับประเด็นหลัก และจะได้ส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับ
การดำาเนินโครงการนั้นๆ ได้
• ผู้มีส่วนได้เสียได้รับข้อมูลสมบูรณ์ครบถ้วน โดยได้รับข้อมูลซึ่งถูกกระจายก่อนหน้ากระบวนการ
• มีความหมายต่อผู้มีส่วนได้เสีย เนื่องจากเนื้อหาถูกนำาเสนอในรูปแบบที่ง่ายต่อการทำาความเข้าใจ และใช้
เทคนิคซึ่งเหมาะสมทางวัฒนธรรม
• เป็นการสื่อสารสองทาง ให้ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองและข้อมูล รับฟังซึ่งกันและกัน และ
ได้หยิบยกประเด็นที่ตนสนใจหรือกังวล
• มีความเท่าเทียมทางเพศ ตระหนักว่าผู้ชายและผู้หญิงมักจะมีมุมมองและความต้องการที่แตกต่างกัน
• จัดในบริบทท้องถิ่น ใช้เวลาและภาษาถิ่นที่เหมาะสม
• มีการบันทึก เพื่อติดตามว่าบริษัทเคยปรึกษาหารือกับใครบ้าง และมีการหยิบยกประเด็นใดบ้าง
• รายงานผลกลับไปยังผู้มีส่วนได้เสียอย่างทันท่วงที พร้อมคำาอธิบายว่า ขั้นตอนต่อไปของบริษัทคืออะไร
• จัดขึ้นอย่างสม่ำาเสมอตามความต้องการ ตลอดอายุขัยของโครงการ
52