Page 52 - คู่มือประเมินผลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence Handbook) ของธุรกิจการโรงแรม
P. 52

•  กฎหมายคุ้มครองแรงงานต่างด้าวและลูกจ้างที่ได้งานผ่านบริษัทจัดหางานน้อยกว่าพนักงาน
                     หรือลูกจ้างประจำา
                  •  แรงงานไม่ตระหนักในสิทธิของตนเอง

                  •  แรงงานไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของบริษัทได้ และไม่มีองค์กรใดๆ ที่จะสามารถเป็น
                     ตัวแทนของพวกเขา และไม่มีศักยภาพที่จะรวมกลุ่มกันต่อรองกับบริษัทจัดหางานหรือนายหน้า
                     นอกจากนี้ ถ้าหากค่าแรงถูกตกลงกันล่วงหน้ากับบริษัทในฐานะผู้ว่าจ้าง การเจรจาต่อรอง
                     ผ่านสหภาพที่เชื่อมโยงกับบริษัทจัดหางานหรือนายหน้าก็อาจมีขีดจำากัดหลายประการ
                  •  แรงงานโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติอาจเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกบังคับให้ทำางาน (เช่น เพื่อใช้หนี้)

                     ถูกทำาร้าย หรือผลกระทบขั้นรุนแรงอื่นๆ เมื่อใดที่พวกเขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแลกกับการหางาน
                     หรือเมื่อเอกสารยืนยันตัวตนถูกริบเอาไป ความเสี่ยงเหล่านี้แหลมคมเป็นพิเศษในพื้นที่ซึ่งกฎหมาย
                     ระดับชาติอ่อนแอ ไม่ถูกบังคับใช้ หรือขัดแย้งกับสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล





                  บริษัทควรพิจารณาว่าธรรมเนียมปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างของคุณอาจมีส่วนสร้างผลกระทบอย่างไร ทบทวนว่า
            ข้อกำาหนดสำาหรับคู่ค้าและผู้รับเหมาที่บริษัทออกเองนั้นมีส่วนสร้างหรือซ้ำาเติมผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนหรือไม่
            อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากฝ่ายจัดซื้อกำาหนดว่าคู่ค้าต้องส่งของตรงเวลา โดยไม่คำานึงถึงเกณฑ์อื่นๆ คู่ค้าก็อาจรู้สึก
            ว่าไม่สามารถจ่ายค่าจ้างแรงงานอย่างเพียงพอ อาจว่าจ้างบริษัทจัดหางานภายใต้เงื่อนไขที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชน

            ของแรงงาน หรือไม่ก็อาจลดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลต่อสิทธิในการมีสุขภาพที่ดีได้





                4         อาศัยความเชี่ยวชาญ




                  บริษัทจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้บริษัทมั่นใจว่ากระบวนการประเมินนั้นจะได้ข้อมูล
            ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำาได้ แหล่งความเชี่ยวชาญอาจมีทั้งภายในและภายนอกบริษัท และอาจรวมถึงเอกสาร
            หรือแนวทาง หรือปัจเจกบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง



                                       อาศัยความเชี่ยวชาญจากภายในบริษัท


                กระบวนการประเมินผลกระทบ คือ โอกาสที่จะได้พูดคุยกับบุคลากรจากหลากหลายภาคส่วนและหลายฝ่าย
           ในบริษัทมาสนทนากันเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นจึงช่วยสร้างความเข้าใจที่ตรงกันว่า การกระทำาและการ
           ตัดสินใจบางอย่างอาจนำาไปสู่ผลกระทบเชิงลบได้อย่างไร การสนทนาที่ว่านี้จะช่วยทำาให้คนยอมรับและสนับสนุน

           มาตรการป้องกันผลกระทบ นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนความร่วมมือกันซึ่งจำาเป็นจะต้องเกิดเมื่อใดที่เกิดผลกระทบขึ้น
           มีหลายวิธีที่คุณจะสร้างกระบวนการปรึกษาหารือภายในนี้ได้


                สหภาพแรงงานหรือตัวแทนแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจเป็นแหล่งความรู้ความเชี่ยวชาญภายในบริษัท

           เกี่ยวกับแนวโน้มผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนได้ พวกเขาไม่เพียงแต่อาจมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในผลกระทบต่อพนักงาน
           (รวมถึงแรงงานที่ถูกจ้างโดยผู้รับเหมาและคู่ค้าท้องถิ่น) เท่านั้น แต่อาจยังเข้าใจเรื่องผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น เนื่องจาก
           พวกเขาเองหลายคนอาจเป็นสมาชิกในชุมชนนั้นๆ ด้วย


             50
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57