Page 4 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 4
ค�าน�า
หลักการเรื่องความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ ได้ถูกกล่าวถึงตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑
จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้มีความพยายามของประเทศสมาชิกในการบรรจุแนวคิด เรื่อง “ความเสมอภาค
และการไม่เลือกปฏิบัติ” ลงในกฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) ในปี ๑๙๔๕ หลักการที่ว่านี้ ได้ถูกถ่ายทอดลงมา
ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) ในปี ๑๙๔๘ และได้ถูกน�ามาบรรจุไว้ในสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ด้านสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ เพื่อสร้างให้เกิดพันธกรณีที่รัฐจะต้องด�าเนินการ
โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ที่ประชุมคณะกรรมการประจ�ากติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิทาง
เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ในสมัยประชุมที่ ๕๕ ได้มีข้อสังเกตเชิงสรุปเกี่ยวกับรายงานการปฏิบัติตาม
อนุสัญญาของประเทศไทย รอบที่ ๒ ประเด็นการไม่เลือกปฏิบัติ โดยแนะน�าให้ประเทศไทยออกกฎหมายต่อต้านการ
เลือกปฏิบัติที่เป็นองค์รวม ให้ครอบคลุมสาเหตุของการเลือกปฏิบัติตามที่ระบุไว้ในข้อ ๒ ของกติกาฯ
แม้ประเทศไทยจะได้วางหลักเรื่องความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทย แต่ข้อมูลจากการศึกษาประเด็นค�าร้องที่มีมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พบว่า ยังมีปัญหาที่เกิดจาก
การถูกเลือกปฏิบัติจ�านวนมาก โดยสามารถจ�าแนกสภาพการเลือกปฏิบัติออกเป็น ๔ ประเด็น ได้แก่ (๑) การจ้างงาน
และการประกอบอาชีพ (๒) การศึกษาและฝึกอบรม (๓) การเข้าถึงบริการสาธารณะและบริการสังคม และ (๔) การ
คุ้มครองจากการได้รับการปฏิบัติที่ท�าให้เกิดความพึงพอใจน้อยกว่าการปฏิบัติต่อคนอื่นในที่สาธารณะ รวมถึงการใช้
ถ้อยค�าเพื่อให้เกิดการดูหมิ่นเกลียดชัง (Hate Speech)
จากเหตุผลดังกล่าว ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต โดยมี
รองศาสตราจารย์คณาธิป ทองรวีวงศ์ เป็นหัวหน้าโครงการ ด�าเนินการศึกษาวิจัย เรื่อง “กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาค
และการไม่เลือกปฏิบัติ” เพื่อท�าการทบทวนวรรณกรรม วิเคราะห์ สังเคราะห์ เปรียบเทียบความรู้จากกฎหมายระหว่าง
ประเทศ กรอบแนวคิด ความเห็น ข้อเสนอแนะของกลไกสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน และกลไกด้านสิทธิมนุษยชน
ระดับภูมิภาค เกี่ยวกับความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ ตลอดจนศึกษา วิเคราะห์สภาพการเลือกปฏิบัติ เหตุแห่ง
การเลือกปฏิบัติ ประเด็นหรือมิติของการเลือกปฏิบัติในประเทศไทย รวมถึงกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดท�าเป็น
ข้อเสนอ มาตรฐาน และแนวทางในการก�าหนดให้มีกติกากลางว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ ในการ
เป็นมาตรฐานขั้นต�่าที่จะประกันความเป็นธรรมในการให้การคุ้มครองแก่บุคคลตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
โดยรายงานการศึกษาวิจัยฉบับนี้ได้ถูกปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ แล้วด้วย
ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานการศึกษาวิจัยนี้ จะเป็นประโยชน์
ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ
ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ รวมถึงประชาชนที่สนใจในการขับเคลื่อนเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติต่อไป
ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กันยายน ๒๕๖๐