Page 290 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 290

ความเชื่อมโยงของแผนยุทธศาสตร์ ฯ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2565   กับ   แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พ.ศ.2560-2562

 ยุทธศาสตร์ที่ 1   - กลยุทธ์ที่ 1: การให้ค าปรึกษาในการจัดท าแผน NAP
    - กลยุทธ์ที่ 2: การประมวลข้อสรุปจากเรื่องร้องเรียนออกมาเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย   ภาครัฐ
 ส่งเสริมและติดตามให้ทุกภาคส่วนของ  กลยุทธ์ที่ 1.1 ติดตามและผลักดันให้ภาครัฐปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ  - กลยุทธ์ที่ 4: การสนับสนุนเชิงเทคนิคและการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐ (เช่น การให้ความรู้ในกระบวนการเยียวยาของศาลและภาครัฐอื่นๆที่เกี่ยวข้อง การผลักดันแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน
    สังคมเกิดความตระหนักและเคารพสิทธิ  ที่ส าคัญของคณะกรรมการประจ าสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่  และการผลักดันเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเพิ่มเติม)
    มนุษยชนตามที่ได้รับการรับรองตาม  ประเทศไทยเป็นภาคี   - กลยุทธ์ที่ 5: การสนับสนุนการเชื่อมโยงแผนต่างๆ ของประเทศให้มีประเด็นสิทธิมนุษยชนให้เด่นชัดมากขึ้น
 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   - กลยุทธ์ที่ 7: การสนับสนุนการสร้างความตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชนกับการประกอบธุรกิจ (CSR เป็นจุดเริ่มที่ดีแต่ยังไม่เพียงพอ) รวมไปถึงความส าคัญของการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานการผลิต
    กฎหมายไทย และพันธกรณีระหว่าง  กลยุทธ์ที่ 1.2 ติดตามและสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐปฏิบัติตาม  ที่เคารพสิทธิมนุษยชน
 แผนสิทธิมนุษยชน
    ประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทย  - กลยุทธ์ที่ 8: การผลักดันการเผยแพร่คู่มือ HRDD ในภาคปฏิบัติ
 จะต้องปฏิบัติตาม   - กลยุทธ์ที่ 9: การให้ค าแนะน าทางเทคนิคว่าด้วยการจัดท ารายงานประจ าปี รวมทั้งส่งเสริมให้บริษัทจัดตั้งกลไกในการขับเคลื่อนภายในองค์กรเพื่อด าเนินงานตามนโยบายของบริษัท เช่น การจัดตั้ง  ภาคเอกชน
    คณะกรรมการสนับสนุนมาตรฐานแรงงาน
    ยุทธศาสตร์ที่ 2   กลยุทธ์ที่ 2.1 เน้นภารกิจในด้านการให้ข้อเสนอแนะ นโยบาย และ  แผนปลูกฝัง   - กลยุทธ์ที่ 10: การจัดท าฐานข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยภาคเอกชน เพื่อน าไปสู่การถอดบทเรียนว่าประเด็นร่วม (common issue) ของธุรกิจแต่ละสาขา และจัดท าข้อเสนอแนะกับภาคเอกชนถึง
 ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรีที่  แนวทางการปฏิบัติที่ดี
    เน้นการด าเนินงานที่ก่อให้เกิดการ  ส าคัญเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน   - กลยุทธ์ที่ 13: การร่วมมือกับองค์กร หรือสถาบันตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในสังคมเพื่อสนับสนุนกลไกเกี่ยวกับปัญหาการประกอบธุรกิจและสิทธิมนุษยชน รวมถึงการให้แรงจูงใจที่เหมาะสม
 เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างหรือระบบการ
    บริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการ  กลยุทธ์ที่ 2.2 ก าหนดประเด็นปัญหาหรือพื้นที่ส าคัญในการ  - กลยุทธ์ที่ 14: การสร้างความตระหนักรู้แก่กลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกละเมิด และสาธารณชนทั่วไป   ประชาชนทั่วไป
 - กลยุทธ์ที่ 15: การถอดบทเรียนและจัดท ากรณีศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อเท็จจริง
    ด าเนินธุรกิจภาคเอกชนโดยการ  ปฏิบัติงานประจ าปี   - กลยุทธ์ที่ 17: การขยายช่องทางการติดต่อเพื่อให้เกิดการเข้าถึง กสม. ได้สะดวกมากขึ้น
 ขับเคลื่อนและผลักดันอย่างเป็นระบบ   - กลยุทธ์ที่ 18: การพัฒนาความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยความเป็นกลาง มุ่งเสนอจุดยืนบนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
    เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาด้านสิทธิ  กลยุทธ์ที่ 2.3 สนับสนุนบทบาทของภาคธุรกิจในการเคารพสิทธิ            ก. กสม. ควรปลูกฝังให้ความรู้กับผู้น าชุมชน ภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน และการร่วมเสริมสร้างศักยภาพกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิให้กับภาคีเครือข่าย   แนวร่วมอื่นๆที่
 มนุษยชน
    มนุษยชน             ข. กสม. ควรพัฒนาเครื่องมือในการสื่อสารความรู้และร่วมมือกับสื่อในการให้ความรู้ทางด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง สนับสนุนบทบาทของสื่อในการตรวจสอบเชิงลึก   เกี่ยวข้อง
           ค. กสม. ควรสนับสนุนในด้านฐานข้อมูลร่วมกับภาควิชาการเพื่อน าไปสู่การท าวิจัยและพัฒนา (เช่น การแปลคู่มือมาตรฐานต่างๆ การวิเคราะห์วิจัยเชิงลึก)
    ยุทธศาสตร์ที่ 3   กลยุทธ์ที่ 3.1 พัฒนาการด าเนินงานและจัดให้มีแผนการท างาน            ง. กสม. ควรร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ มาตรฐานสากล บทเรียน แนวทางการปฏิบัติที่ดี รวมไปถึงการท าวิจัยและพัฒนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างประเทศ
 ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และ
    มุ่งการท างานร่วมกับเครือข่าย  ชุมชน ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

    ภายในประเทศและพันธมิตรในเวที  กลยุทธ์ที่ 3.2 ส่งเสริมให้สถาบันวิชาการในท้องถิ่นเป็นที่พึ่งของ  - กลยุทธ์ที่ 2: การประมวลข้อสรุปจากเรื่องร้องเรียนออกมาเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย   ภาครัฐ

 - กลยุทธ์ที่ 3: การตรวจสอบประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนเฉพาะเรื่องจากภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ (เช่น โครงการขนาดใหญ่ การแย่งชิงฐานทรัพยากร การท าลายสิ่งแวดล้อม) การตรวจสอบผลการ
 ระหว่างประเทศเพื่อให้เกิดการสร้างพลัง
    (synergy) ในการท างานร่วมกัน   ชุมชน เพื่อการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและแก้ไขปัญหาการละเมิด  ด าเนินงานของภาครัฐ (เช่น ภาครัฐมีกลไกการคุ้มครองและเยียวยาในทางปฏิบัติเป็นอย่างไร) และตรวจสอบกลไกการตรวจสอบของภาครัฐ (เช่น หน่วยงานควบคุมรัฐวิสาหกิจว่ามีการด าเนินงานอย่างไร)
 สิทธิมนุษยชนในพื้นที่
    - กลยุทธ์ที่ 6: การให้ข้อเสนอเชิงนโยบาย หรือปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ (เช่น การให้มีกฎหมาย Anti SLAPP การให้มีการ
 คุ้มครองผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนหรือผู้ให้ข้อมูล (whistle blower) และการสนับสนุนให้ท า RIA)
 กลยุทธ์ที่ 3.3 เสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในเวทีระหว่าง
    ประเทศในการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อประโยชน์ในการท างานและ
 พัฒนาศักยภาพขององค์กร   - กลยุทธ์ที่ 10: การจัดท าฐานข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยภาคเอกชน เพื่อน าไปสู่การถอดบทเรียนว่าประเด็นร่วม (common issue) ของธุรกิจแต่ละสาขา และจัดท าข้อเสนอแนะกับภาคเอกชนถึง  ภาคเอกชน
    แนวทางการปฏิบัติที่ดี
    ยุทธศาสตร์ที่ 4   กลยุทธ์ที่ 4.1 พัฒนางานส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและจัดให้มีแผนใน  แผนคุ้มครองและเยียวยา   - กลยุทธ์ที่ 11: การเฝ้าระวังปัญหาเฉพาะเรื่องจากภาคเอกชน (เช่น เกษตรพันธสัญญา การค้ามนุษย์ แย่งชิงฐานทรัพยากร การท าลายสิ่งแวดล้อม การลงทุนของธุรกิจไทยในต่างประเทศที่ละเมิดสิทธิ
 การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุม  มนุษยชน)
    ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสร้าง  เนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย และกระบวนการที่หลากหลายและเหมาะสม
                                                                   ภาคเอกชน /
    ความตระหนักในเรื่องสิทธิมนุษยชน   กลยุทธ์ที่ 4.2 พัฒนากลไก ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิ  - กลยุทธ์ที่ 12: การผลักดันกลไกการไกล่เกลี่ยนอกศาลในกระบวนการแก้ไขข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้เข้าถึงความเป็นธรรมอย่างรวดเร็ว ไม่แพง และเป็นที่พอใจ แต่มิได้ตัดสิทธิในการที่จะไปฟ้องร้อง  ประชาชนทั่วไป
 สื่อสารเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิ
 ในกระบวนการยุติธรรม
    มนุษยชนในประเทศไทย รวมทั้งผลงาน  มนุษยชน และชี้แจง แสดงท่าทีตอบสนองต่อปัญหาและ
 สถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่ส าคัญอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
 ส าคัญของ กสม. ต่อสาธารณชนอย่าง  - กลยุทธ์ที่ 16: การสนับสนุนกลไกการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เช่น การให้ค าปรึกษากับผู้ร้องทุกข์เพื่อให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม กลไกการเยียวยา รวมทั้งการปรับปรุงกลไกการปกป้องผู้พิทักษ์
    ถูกต้องและทั่วถึง   กลยุทธ์ที่ 4.3 จัดให้มีศูนย์กลางความรู้ และแหล่งข้อมูลด้านสิทธิ  สิทธิมนุษยชน)     ประชาชนทั่วไป
    มนุษยชน   - กลยุทธ์ที่ 17: การขยายช่องทางการติดต่อเพื่อให้เกิดการเข้าถึง กสม. ได้สะดวกมากขึ้น

    กลยุทธ์ที่ 4.4 พัฒนาการสื่อสารองค์กร / การประชาสัมพันธ์   - กลยุทธ์ที่ 19: การผลักดันแผนกลยุทธ์ขององค์กรให้น าไปใช้เพื่อสนับสนุนการด าเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจ โดย กสม. ควรที่จะปรับสมดุลภาพลักษณ์ขององค์กรให้ท างานในเชิง
    ยุทธศาสตร์ที่ 5   กลยุทธ์ที่ 5.1 ปรับปรุงกระบวนการท างานในภารกิจหลักของ  ส่งเสริมมากขึ้น
 องค์กร (core business process redesign)   - กลยุทธ์ที่ 20: การท าความเข้าใจภายในองค์กรเพื่อให้เข้าใจตรงกันเกี่ยวกับนิยาม ขอบเขตอ านาจของ กสม. เพื่อใช้ก าหนดแนวทางการปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครอง และการเยียวยาการละเมิดสิทธิ
    เสริมสร้างและพัฒนากระบวนการท างาน   มนุษยชนให้มีประสิทธิภาพ
 และการบริหารจัดการองค์กรให้เกิดผล  กลยุทธ์ที่ 5.2 พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรทรัพยากรบุคคล   - กลยุทธ์ที่ 21: การเพิ่มกลุ่มงานด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนโดยมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจซึ่งมาจากหลากหลายสาขา เนื่องจากประเด็น  การพัฒนา
    สัมฤทธิ์   และงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ   สิทธิมนุษยชนเกี่ยวข้องกับมิติที่หลากหลาย   ภายใน
    กลยุทธ์ที่ 5.3 พัฒนาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (learning   แผนพัฒนาองค์กร   - กลยุทธ์ที่ 22: การจัดท าคู่มือด้านสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจให้กับเจ้าหน้าที่   องค์กร
    organization)   - กลยุทธ์ที่ 23: การพัฒนาโครงสร้างการบริหารจัดการบุคลากรขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
 - กลยุทธ์ที่ 24: การส่งเสริมให้มีคลังข้อมูลที่รวบรวมหลักปฏิบัติที่ดีในประเด็นต่างๆ เช่น กรณีศึกษา การบริหารความสัมพันธ์ภายในห่วงโซ่อุปทานการผลิต การจัดท า auditing system และรายงาน
    กลยุทธ์ที่ 5.4 จัดให้มีสถาบันพัฒนาระบบและองค์ความรู้ด้านสิทธิ  ประจ าปี นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนจัดท า KPI ของตนเองขึ้น
 มนุษยชนภายใต้การก ากับดูแลของ กสม.
    - กลยุทธ์ที่ 25: การพัฒนากลไกการบริหารที่ต้องมีการติดตาม การประสานงานกับผู้ร้องเรียนถึงสถานะการด าเนินการการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนอย่างเหมาะสม และการประเมินผลการปฏิบัติตามแผน
 กลยุทธ์ที่ 5.5 พัฒนาระบบการท างานขององค์กรให้ทันกับ  กลยุทธ์ฯ ทั้งจากภายในและภายนอกเพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนแผนที่เป็นรูปธรรมต่อไป (เช่น การจัดท ารายงานประจ าปีที่มีการสรุปการด าเนินงานในประเด็นของธุรกิจและสิทธิมนุษยชนอย่าง
    เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดิจิทัล (digital)   ชัดเจน)
   285   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295