Page 46 - รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 46
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
๑) รัฐบาลควรพิจารณาทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และค�าสั่ง ที่อาจเป็นการจ�ากัดเสรีภาพในการแสดงออก
ทางศาสนา รวมถึงการแต่งกายที่ไม่อยู่ในข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน
๒) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก�าหนดแนวทางในการแต่งกายของพยาบาล นักเรียนและนักศึกษาพยาบาลที่นับถือศาสนาอิสลาม
เพื่อให้พยาบาลและนักศึกษาพยาบาลที่สังกัดในหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน สามารถสวมผ้าคลุมศีรษะตามหลัก
ศาสนาได้ในลักษณะเดียวกัน เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติ ตลอดจนสร้างความเข้าใจและสร้างความตระหนักในการเคารพ
สิทธิมนุษยชนให้แก่องค์กรธุรกิจ ในประเด็นเกี่ยวกับการสวมผ้าคลุมศีรษะ (ฮิญาบ) ตามหลักศาสนา
๓) รัฐบาลควรพิจารณาความเหมาะสมในการที่จะมีกฎหมายกลางที่เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมด้วยเหตุต่าง ๆ ตามที่
รับรองในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมายไทย กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ
ในทุกรูปแบบที่ประเทศไทยเป็นภาคี
ผลการด�าเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ การสร้างความเข้าใจและความตระหนักต่อองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน
รับทราบข้อเสนอของ กสม. และมอบให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงาน เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคล อย่างไรก็ตาม
หลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในประเด็นเรื่องความเหมาะสมในการที่จะมีกฎหมายกลางที่เกี่ยวกับ
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทวงแรงงาน กระทรวง การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมด้วยเหตุต่าง ๆ หน่วยงานส่วนใหญ่เห็นว่า
ศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม ส�านักงาน ควรพิจารณาถึงความจ�าเป็นในการออกกฎหมายใหม่ โดยค�านึงถึง
คณะกรรมการกฤษฎีกา ส�านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ กฎหมายที่มีอยู่แล้วและประสิทธิภาพในการใช้บังคับว่ามีผลครอบคลุม
และสังคมแห่งชาติ ส�านักงานคณะกรรมการก�ากับหลักทรัพย์และ การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุต่าง ๆ แล้วหรือไม่
ตลาดหลักทรัพย์ และสภาการพยาบาล เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง
และความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณา
หรือการด�าเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้ส�านัก
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ค�าสั่งเพื่อน�าเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ต่อมา กสม. ได้รับหนังสือแจ้งผลการด�าเนินการจาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวง
การต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวง
อุตสาหกรรม และส�านักงานคณะกรรมการก�ากับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์ โดยในภาพรวมแต่ละหน่วยงานมีความเห็นสอดคล้อง บทที่ ๒ : ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘
กันว่า การสวมฮิญาบเป็นเสรีภาพส่วนบุคคลในการนับถือศาสนาและ
เป็นการปฏิบัติตามศาสนบัญญัติ ซึ่งได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และ
พันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็น
ภาคี แต่อาจมีข้อยกเว้นในบางเรื่องซึ่งต้องพิจารณาถึงความจ�าเป็น
อื่น ๆ เช่น ไม่ขัดต่อหน้าที่พลเมือง ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม
อันดีของประชาชน ด้านการศึกษาหรือการประกอบวิชาชีพทางการ
แพทย์ เป็นต้น สมควรให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์ในความรับผิดชอบ
ของแต่ละหน่วยงานว่าจ�ากัดเสรีภาพในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ และให้มี
รายงานผลการปฏิบัติงานประจ�าปี ๒๕๕๘ 45 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ