Page 63 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 63

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘



                    ๙.  การคุ้มครองผู้โยกย้ายถิ่นฐานและผู้แสวงหาที่พักพิง

                        ข้อ ๗๔ การด�าเนินมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการจับกุมคุมขังตามอ�าเภอใจ การใช้ความรุนแรง
           การละเมิดและการแสวงประโยชน์จากผู้โยกย้ายถิ่นฐาน (บราซิล)
                        ข้อ ๗๖ การเน้นความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อประกันการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้โยกย้ายถิ่นฐาน
           และแรงงานต่างชาติทุกคนอย่างเต็มที่  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมความปลอดภัยและสวัสดิการส�าหรับกลุ่มคนดังกล่าว
           (เมียนมา)

                        ข้อ ๗๗ การด�าเนินความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของผู้โยกย้ายถิ่นฐาน (บังกลาเทศ)

                        ข้อ ๗๙  การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกรอบกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนและบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อ
           คุ้มครองผู้โยกย้ายถิ่นฐาน ผู้แสวงหาที่พักพิง และผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (เเคนาดา)
                        ข้อ ๘๑ การประกันให้ผู้ย้ายถิ่นฐานที่พบในทะเลได้รับมาตรการคุ้มครองอย่างเต็มที่ ตามที่ควรจะได้รับภายใต้
           กฎหมายระหว่างประเทศ (นิวซีเเลนด์)

                        ข้อ ๘๒ การประกันการเคารพหลักการไม่ผลักดันกลับ ในกรณีของผู้แสวงหาที่พักพิง และผู้ลี้ภัย/การหลีกเลี่ยงการ
           ปิดพื้นที่พักพิงบริเวณชายแดนตะวันตกก่อนเวลาอันสมควร ในขณะที่เงื่อนไขส�าหรับการกลับโดยสมัครใจ ปลอดภัยและสมศักดิ์ศรี
           ยังไม่พร้อม/ การดูแลความต้องการด้านความคุ้มครองของกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ อาทิ กลุ่มชาวโรฮินจา โดยให้สอดคล้องกับกฎหมาย
           ระหว่างประเทศ (เเคนาดา)

                        ข้อ ๘๕  การด�าเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับส�านักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
           รวมถึงประเทศผู้บริจาค และองค์กรเอกชน เพื่อให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จ�าเป็น และคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้หนีภัย
           ที่ประเทศไทยให้ที่พักพิง
                    ๑๓. กระบวนการยุติธรรม

                        ข้อ ๑๑๓ การด�าเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงการให้ค�าปรึกษาด้านกฎหมาย บริการด้าน
           สุขภาพและการศึกษาของนักโทษ

                    ๑๔. กระบวนการปรองดอง
                        ข้อ ๑๒๐  การสร้างความปรองดองระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม บนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตย นิติธรรม
           และขันติธรรม เพื่อน�าไปสู่เสถียรภาพทางการเมืองและสังคม และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (เวียดนาม)

                        ข้อ ๑๒๓ การให้ความส�าคัญอย่างต่อเนื่องกับกระบวนการปรองดองซึ่งมีความจ�าเป็น เพื่อสนับสนุนผลลัพธ์
           เชิงบวกด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับเสรีภาพของบุคคล รวมถึงเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพจากการถูกแก้แค้น และลงโทษ
           นอกกระบวนการยุติธรรม (นิวซีเเลนด์)







        การเข้าเป็นภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ประเทศไทยได้ท�าถ้อยแถลง
        ตีความไว้ ๔ ประเด็น ได้แก่ ข้อบทที่ ๒ วรรค ๑ สิทธิในการก�าหนดเจตจ�านงของตนเอง ข้อบทที่ ๖ วรรค ๕ การห้ามประหารชีวิต
        ผู้ที่อายุต�่ากว่า ๑๘ ปี ข้อบทที่ ๙ วรรค ๓ การน�าตัวผู้ต้องหาเข้าสู่การพิจารณาคดีโดยพลัน และข้อบทที่ ๒๐ วรรค ๑ การห้ามโฆษณา
        ชวนเชื่อเพื่อท�าสงคราม โดยต่อมา เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยถอนถ้อยแถลงตีความใน
        ข้อบทที่ ๖ วรรค ๕ และข้อบทที่ ๙ วรรค ๓ เนื่องจากได้ปรับแก้กฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับข้อบทดังกล่าวแล้ว และในวันที่
        ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ประเทศไทยได้ยื่นตราสารขอถอนค�าแถลงตีความในข้อบทดังกล่าวต่อเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ดังนั้น จึงคง
        เหลือถ้อยแถลงตีความอีก ๒ ประเด็น กล่าวคือ ข้อบทที่ ๒ วรรค ๑ และข้อบทที่ ๒๐ วรรค ๑






         33
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68