Page 61 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 61
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
๓.๑.๒ สนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี
๑) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant
on Civil and Political Rights : ICCPR)
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี โดยการภาคยานุวัติและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๐ โดยท�าค�าแถลง
ตีความ ๒ ประเด็น ได้แก่ (๑) เรื่องการก�าหนดเจตจ�านงของตนเอง โดยมิได้หมายรวมถึงการแบ่งแยกดินแดน
หรือเอกภาพทางการเมือง (ข้อ ๑ วรรคหนึ่ง) และ (๒) การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อท�าสงคราม (ข้อ ๒๐ วรรคหนึ่ง)
เนื้อหาของกติกาฉบับนี้มี ๖ ส่วน ๕๓ ข้อ ๓ ส่วนแรก (ข้อ ๑-๒๗) เป็นสารบัญญัติว่าด้วยสิทธิต่าง ๆ ส่วนที่
๔ (ข้อ ๒๘-๔๕) ว่าด้วยคณะกรรมการและการเสนอรายงาน (ข้อ ๔๐) การไกล่เกลี่ยข้อร้องเรียนระหว่างประเทศเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติ
ตามบทบัญญัติของกติกาส่วนที่ ๕ (ข้อ ๔๖-๔๗) ว่าด้วยการตีความ และส่วนที่ ๖ (ข้อ ๔๗-๕๓) ว่าด้วยการลงนามเข้าเป็นภาคี
การมีผลใช้บังคับ การแก้ไข การเก็บรักษาต้นฉบับทั้ง ๕ ภาษา ส่วนที่เป็นสารบัญญัติ ๒๗ ข้อก�าหนดสิทธิต่าง ๆ ทั้งในส่วนที่เป็นสิทธิ
ของประชาชน ซึ่งว่าด้วยการก�าหนดสิทธิของตนเองของประชาชนในเรื่องการเมือง และสามารถด�าเนินการอย่างเสรีในการจัดการ
ทรัพยากรและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของตน และการประกันสิทธิของรัฐภาคี ที่จะต้องส่งเสริมให้บังเกิดผลตาม
สิทธิดังกล่าว โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ สิทธิเหล่านี้รวมถึงสิทธิที่จะมีชีวิตและการยกเลิกโทษประหารชีวิต การห้ามการทรมาน/
ลงโทษทารุณโหดร้าย การมีทาส เสรีภาพในความปลอดภัยของร่างกาย ห้ามการจับกุม โดยมิได้ท�าผิดกฎหมาย การปฏิบัติต่อ
ผู้ถูกจับกุมด้วยมนุษยธรรม เสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัย ความเสมอภาคในด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมทางศาล
สิทธิในสถานะบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว สิทธิเสรีภาพทางความคิดและศาสนา การห้ามการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อการสงคราม
และการเกลียดชังเผ่าพันธุ์ สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ การรวมตัวเป็นสมาคม การคุ้มครองครอบครัวและการสมรส สิทธิของเด็ก
ในด้านการคุ้มครอง การมีทะเบียนเกิดและสัญชาติ การมีสิทธิมีส่วนในการบริหารบ้านเมืองและสิทธิของชนกลุ่มน้อย
๒) อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or
Punishment : CAT)
อนุสัญญามีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ โดยก�าหนดให้รัฐภาคีแต่ละรัฐต้องด�าเนิน
มาตรการต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระท�าการทรมานในอาณาเขตใดซึ่งอยู่ภายใต้เขตอ�านาจของตน และไม่มี
พฤติการณ์พิเศษใดไม่ว่าจะเป็นภาวะสงคราม หรือสภาพคุกคามที่เกิดจากสงคราม หรือสภาวะฉุกเฉินสาธารณะอื่นใดมาเป็นข้ออ้าง
ส�าหรับการทรมานได้ โดยรัฐภาคีจะต้องประกันว่าการกระท�าทรมานทั้งปวงเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาของตน และก�าหนด
โทษที่เหมาะสมกับความร้ายแรงของการกระท�า โดยรัฐภาคีต้องปฏิบัติตามในข้อบทที่ ๑-๑๗
๓) อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International
Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance (CED) )
อนุสัญญามีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยการกระท�าของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยก�าหนด
ให้บุคคลจะถูกกระท�าให้หายสาบสูญโดยถูกบังคับไม่ได้และไม่มีพฤติการณ์พิเศษใดไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงคราม หรือสภาพคุกคาม
ที่จะเกิดสงคราม หรือเหตุอื่นใดมาเป็นข้ออ้างส�าหรับการกระท�าให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับได้ ซึ่งรัฐภาคีต้องด�าเนินมาตรการ
ที่จ�าเป็นเพื่อประกันว่าการหายสาบสูญโดยถูกบังคับเป็นฐานความผิดภายใต้กฎหมายอาญาของตน และต้องด�าเนินมาตรการ
ที่เหมาะสมเพื่อสอบสวนและน�าตัวผู้กระท�าผิดมาด�าเนินคดี และต้องก�าหนดบทลงโทษและอายุความที่เหมาะสมและร้ายแรง
ของความผิด โดยรัฐภาคีต้องปฏิบัติตามในข้อบทที่ ๑-๒๕ แม้ว่าประเทศไทยยังอยู่ในระหว่างกระบวนการให้สัตยาบันเพื่อเข้าเป็น
ภาคี ซึ่งอนุสัญญาฯ จะยังไม่มีผลใช้บังคับกับประเทศไทย แต่รัฐบาลก็จะต้องไม่กระท�าการใดๆ ที่เป็นการขัดต่อสาระและความ
มุ่งประสงค์ (Objects and Purposes) ของอนุสัญญาดังกล่าว
31