Page 17 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 17

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘




        ของชาติหรือความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ หรือด้วยเหตุแห่งสาธารณสุขและศีลธรรมจะต้องด�าเนินการอย่างระมัดระวัง
        และเป็นไปตามวัตถุประสงค์อันชอบธรรม การด�าเนินการจะต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีสัดส่วนที่เหมาะสม
        มีความจ�าเพาะของกรณี มีความเชื่อมโยงโดยตรง และส่งผลชัดเจนจากการใช้สิทธินั้น ๆ และต้องไม่เป็นการจ�ากัดสิทธิในการ

        น�าเสนอหรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยชน์ของสาธารณะอย่างชอบธรรม

        ๑.๕ สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
        ในปี ๒๕๕๘ เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีจ�านวนลดลงเมื่อเทียบกับในรอบ ๑๒ ปีที่ผ่านมา แต่ยังพบว่า

        สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของประชาชน ประเด็น
        สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิเด็กและสิทธิสตรียังเป็นประเด็นที่มีสถานการณ์น่าห่วงกังวลที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิด
        สิทธิมนุษยชน เช่น การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงไปซักถาม การตรวจค้นสถานที่ที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่ซ่อนตัว
        ของผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง และการตรวจตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA) ในกลุ่มเด็กที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับผู้ต้องสงสัย

        ในคดีความมั่นคง เป็นต้น


        ๒. สถานการณ์สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม



        สถานการณ์สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ส่วนใหญ่เป็นผลเนื่องจากนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ
        ที่เน้นการขยายตัวตามระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม การด�าเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ขาดกระบวนการ
        มีส่วนร่วมของประชาชน และขาดการค�านึงถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ จนส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล�้า

        ทางเศรษฐกิจและสังคม การรวมตัวและเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล หรือชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
        เพื่อปกป้องสิทธิของกลุ่มหรือชุมชน รวมถึงการฟ้องร้องด�าเนินคดีต่อหน่วยงานของรัฐ และผู้ประกอบการ
        ทั้งนี้ กสม. มีข้อสังเกตใน ๗ ประเด็นหลัก ได้แก่

        ๒.๑ การบริหารจัดการพลังงาน

        รัฐมีนโยบายผลักดันให้ชุมชนหรือเอกชนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เพื่อผลิตพลังงานทดแทน เนื่องจากมีต้นทุนด้านวัตถุดิบต�่ากว่า
        พลังงานอื่น ๆ ในขณะที่ยังมีความกังวลต่อการบริหารจัดการมลภาวะที่เกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้ชุมชนในพื้นที่คัดค้านโครงการดังกล่าว
        เนื่องจากความไม่เหมาะสมของพื้นที่ก่อสร้างสถานที่ตั้งใกล้ชุมชน และความไม่ชัดเจนในการดูแลมลพิษที่เกิดขึ้น นอกจากนี้
        ยังมีการฟ้องร้องคดีต่อศาลโดยให้เพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ และ

        ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ ๗ ซึ่งก�าหนดให้โครงการโรงไฟฟ้าขยะมูลฝอยในทุกขนาดก�าลังผลิต
        น�าประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) มาใช้ โดยยกเว้นการจัดท�ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งเเวดล้อม (EIA)

        ๒.๒ เหมืองแร่
        กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้ออกประกาศนโยบายการส�ารวจและท�าเหมืองแร่ทองค�าในพื้นที่ ๑๒ จังหวัด

        ท�าให้เกิดการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาจากนโยบายการท�าเหมืองแร่
        มาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่ง กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียน ๕ ประเด็นหลัก คือ (๑) การขาด
        การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเชิงนโยบายของประชาชนและชุมชน (๒) การพิจารณาอนุญาตของหน่วยงานรัฐ (๓) การได้รับ

        ผลกระทบจากกิจการที่ด�าเนินอยู่ (๔) การฟื้นฟูพื้นที่ และเยียวยาสิทธิในพื้นที่ และ (๕) การข่มขู่และคุกคามอันเป็นผลจาก
        การคัดค้านการท�าเหมืองแร่ นอกจากนี้ ยังมีปัญหากฎหมายแร่ที่ล้าสมัยและขาดความเหมาะสมกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม
        และสิ่งแวดล้อม และไม่อาจป้องกันและแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้นได้






         XVI
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22