Page 152 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 152

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘



                              ๘)  อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (CED)

                                อนุสัญญามีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยการกระท�าของเจ้าหน้าที่รัฐ
                  โดยก�าหนดให้บุคคลจะถูกกระท�าให้หายสาบสูญโดยถูกบังคับไม่ได้และไม่มีพฤติการณ์พิเศษใดไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงคราม
                  หรือสภาพคุกคามที่จะเกิดสงคราม หรือเหตุอื่นใดมาเป็นข้ออ้างส�าหรับการกระท�าให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับได้ ซึ่งรัฐภาคี
                  ต้องด�าเนินมาตรการที่จ�าเป็นเพื่อประกันว่าการหายสาบสูญโดยถูกบังคับเป็นฐานความผิดภายใต้กฎหมายอาญาของตน
                  และต้องด�าเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อสอบสวนและน�าตัวผู้กระท�าความผิดมาด�าเนินคดี และต้องก�าหนดบทลงโทษ
                  และอายุความที่เหมาะสมและร้ายแรงของความผิด โดยรัฐภาคีต้องปฏิบัติตามในข้อบทที่ ๑-๒๕ แม้ว่าประเทศไทยยังอยู่ในระหว่าง
                  กระบวนการให้สัตยาบันเพื่อเข้าเป็นภาคี ซึ่งอนุสัญญาฯ จะยังไม่มีผลใช้บังคับกับประเทศไทย แต่รัฐบาลก็จะต้องไม่กระท�า
                  การใด ๆ ที่เป็นการขัดต่อสาระและความมุ่งประสงค์ (Object and Purpose) ของอนุสัญญาดังกล่าว
                              ๙)  อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมที่จัดตั้งในลักษณะองค์กรพิธีสารว่าด้วยการ
                  ป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก

                                ประเทศไทยได้ลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะ
                  องค์กร เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๓ และพิธีสารเพื่อป้องกันปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก
                  เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๔ และให้สัตยาบันตราสารทั้งสองฉบับ โดยมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
                                พิธีสารเพื่อป้องกัน ปราบปราม และลงโทษ การค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก มีวัตถุประสงค์หลัก
                  เพื่อป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์โดยให้ความส�าคัญเป็นพิเศษกับสตรีและเด็ก โดยได้ก�าหนดให้การค้ามนุษย์เป็นความผิด   บทที่ ๕ สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเปราะบาง
                  ทางอาญา และก�าหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เช่น การให้พิจารณาคดีโดยลับ การจัดให้มี
                  การฟื้นฟูทางกายภาพ ทางจิตใจ และทางสังคม และการก�าหนดแนวทางในการส่งกลับเหยื่อจากการค้ามนุษย์ไปยังประเทศต้นทาง

                                ปัจจุบันประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม
                  ข้ามชาติ พ.ศ. ๒๕๔๖ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นกฎหมายอนุวัติการส�าหรับ
                  อนุสัญญาและพิธีสารดังกล่าวแล้ว
                  ๕.๑.๓  ข้อเสนอแนะจากกระบวนการ UPR ที่ประเทศไทยรับมาปฏิบัติ

                              •  การเข้าเป็นภาคีกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน

                                ข้อ ๓  การศึกษาความเป็นไปได้ในการให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการ
                  หายสาบสูญโดยถูกบังคับ/พิธีสารเลือกรับฉบับที่ ๒ ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง/พิธีสาร
                  เลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานฯ/พิธีสารเลือกรับฉบับที่ ๑ ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง
                  และสิทธิทางการเมือง/พิธีสารเลือกรับของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม/อนุสัญญา
                  ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกครอบครัว/และพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิ
                  คนพิการ (อาร์เจนตินา)

                                ข้อ ๔  การให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติตามความเหมาะสมต่ออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคน
                  จากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (อุรุกวัย)

                                ข้อ ๕  การลงนามและให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญ
                  โดยถูกบังคับ (สเปน)
                                ข้อ ๖  การให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
                  (ออสเตรเลีย)

                                ข้อ ๗  การให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
                  และสอบสวนข้อกล่าวหาทั้งหมดเกี่ยวกับการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ฝรั่งเศส)

                                ข้อ ๘  การลงนามและให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
                  ในทันที (นิการากัว)


                                                                                                          122
   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157