Page 148 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 148
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
นอกจากนั้น ในหมวด ๕ แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ยังบัญญัติว่า
มาตรา ๗๕ บทบัญญัติในหมวดนี้เป็นเจตจ�านงให้รัฐด�าเนินการตรากฎหมายและก�าหนดนโยบายในการ
บริหารราชการแผ่นดิน
ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องชี้แจงต่อรัฐสภาให้ชัดแจ้ง
ว่าจะด�าเนินการใด ในระยะเวลาใด เพื่อบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และต้องจัดท�ารายงาน
แสดงผลการด�าเนินการ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคเสนอต่อรัฐสภาปีละหนึ่งครั้ง
มาตรา ๗๖ คณะรัฐมนตรีต้องจัดท�าแผนการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อแสดงมาตรการและรายละเอียด
ของแนวทางในการปฏิบัติราชการในแต่ละปีของการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
ในการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องจัดให้มีแผนการตรากฎหมายที่จ�าเป็นต่อการด�าเนินการ
ตามนโยบายและแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
๕.๑.๒ สนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี
๑) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี โดยการภาคยานุวัติและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๐ โดยมีการ
ท�าค�าแถลงตีความ ๒ ประเด็น ได้แก่ (๑) เรื่องการก�าหนดเจตจ�านงของตนเอง โดยมิได้หมายรวมถึงการแบ่งแยกดินแดน บทที่ ๕ สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเปราะบาง
หรือเอกภาพทางการเมือง (ข้อ ๑ วรรคหนึ่ง) และ (๒) การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อท�าสงคราม (ข้อ ๒๐ วรรคหนึ่ง)
เนื้อหาของกติกาฉบับนี้มี ๖ ส่วน ๕๓ ข้อ ๓ ส่วนแรก (ข้อ ๑-๒๗) เป็นสารบัญญัติว่าด้วยสิทธิต่าง ๆ ส่วนที่ ๔
(ข้อ ๒๘-๔๕) ว่าด้วยคณะกรรมการและการเสนอรายงาน (ข้อ ๔๐) การไกล่เกลี่ยข้อร้องเรียนระหว่างประเทศเกี่ยวกับ
การไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกติกาส่วนที่ ๕ (ข้อ ๔๖-๔๗) ว่าด้วยการตีความ และ ส่วนที่ ๖ (ข้อ ๔๘-๕๓) ว่าด้วยการลงนาม
เข้าเป็นภาคี การมีผลใช้บังคับ การแก้ไข การเก็บรักษาต้นฉบับทั้ง ๕ ภาษา ส่วนที่เป็นสารบัญญัติ ๒๗ ข้อก�าหนดสิทธิต่าง ๆ
ทั้งในส่วนที่เป็นสิทธิของประชาชน ซึ่งว่าด้วยการก�าหนดสิทธิของตนเองของประชาชนในเรื่องการเมือง และสามารถด�าเนิน
การอย่างเสรีในการจัดการทรัพยากร และพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมของตน และการประกันสิทธิของรัฐภาคี
ที่จะต้องส่งเสริมให้บังเกิดผลตามสิทธิดังกล่าว โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ สิทธิเหล่านี้รวมถึงสิทธิที่จะมีชีวิตและการยกเลิก
โทษประหารชีวิต การห้ามการทรมาน/ลงโทษทารุณโหดร้าย การมีทาส เสรีภาพในความปลอดภัยของร่างกาย ห้ามการจับกุม
โดยมิได้ท�าผิดกฎหมาย การปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมด้วยมนุษยธรรม เสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัย ความเสมอภาคใน
ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางศาล สิทธิในสถานะบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว สิทธิเสรีภาพทางความคิด
และศาสนา การห้ามการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อการสงครามและการเกลียดชังเผ่าพันธุ์ สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ การรวมตัว
เป็นสมาคม การคุ้มครองครอบครัวและการสมรส สิทธิของเด็กในด้านการคุ้มครอง การมีทะเบียนเกิดและสัญชาติ การมีสิทธิ
มีส่วนในการบริหารบ้านเมืองและสิทธิของชนกลุ่มน้อย
๒) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR)
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีโดยการภาคยานุวัติ และมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ โดย
ท�าค�าแถลงตีความข้อ ๑ วรรคหนึ่ง เกี่ยวกับสิทธิในการก�าหนดเจตจ�านงของตนเอง โดยมิให้ตีความรวมถึง การแบ่งแยกดินแดน
หรือเอกภาพทางการเมือง
เนื้อหาของกติกาฉบับนี้มี ๕ ส่วน ๓๑ ข้อ ๓ ส่วนแรก (ข้อ ๑-๑๕) เป็นสารบัญญัติว่าด้วยสิทธิต่าง ๆ
ส่วนที่ ๔ (ข้อ ๑๖-๒๕) ว่าด้วยการเสนอรายงานทั้งของรัฐภาคีและในระหว่างองค์กรของสหประชาชาติ ของการให้ความช่วยเหลือ
และการประชุมทางวิชาการและการตีความ และส่วนที่ ๕ (ข้อ ๒๖-๓๑) ว่าด้วยการลงนามเข้าเป็นรัฐภาคี การมีผลบังคับใช้
ความครอบคลุมของกติกา การแก้ไขและการเก็บรักษาต้นฉบับ ส่วนที่เป็นสารบัญญัติ ๑๕ ข้อ ก�าหนดสิทธิต่าง ๆ ของประชาชน
ได้แก่ การก�าหนดเจตจ�านงของตน การจัดการทรัพยากรและการประกันสิทธิของรัฐภาคี ที่จะต้องให้สิทธิแก่ทั้งประชาชนและ
ผู้ที่ไม่ใช่คนชาติของตน การประกันสิทธิความเท่าเทียมกันในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมระหว่างชายหญิงและเพื่อความ
118

