Page 35 - สรุปผลการสัมมนา เรื่อง ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรมกับการเคารพสิทธิมนุษยชน ตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ ตามกรอบงานขององค์การสหประชาชาติ ในการคุ้มครอง เคารพ และเยียวยา : วันที่ 17 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ทแอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต
P. 35
34
พื้นฐานของธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคน จึงต้องระวังมากเกี่ยวกับการบริหาร
บุคลากร หากมีการออกกฎหรือให้เงินเดือนที่ไม่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่บั่นทอนพนักงาน และมีผลกระทบถึง
การบริการลูกค้าเพราะพนักงานไม่สามารถระบายความเครียดกับผู้บริหารได้ สุดท้ายแล้วผลกระทบก็ตกกับ
ผู้ประกอบการ
หลักธรรมาภิบาลโดยทั่วไปเป็นเรื่องนามธรรม แต่ส าหรับภาคธุรกิจโรงแรมถือเป็นเรื่อง
รูปธรรม โดยสามารถท าให้ธรรมาภิบาลเกิดขึ้นเหมือนการบริหารประเภทหนึ่ง ประกอบด้วย นโยบายที่ดี
ยุทธศาสตร์ที่ดี และโครงสร้างที่ดี เนื่องจากธุรกิจโรงแรมขายความเชื่อถือและสิ่งที่นักท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับ
การมีหลักธรรมาภิบาลของธุรกิจ จะส่งผลต่อความยั่งยืนขององค์กร เพราะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ
ระหว่างธุรกิจและบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อธุรกิจ แบ่งได้เป็น ๑) บุคคลภายใน ได้แก่ พนักงานต่างๆ โดยจะ
ส่งผลให้พนักงานมีความเชื่อมั่นต่อองค์กรและเมื่อพนักงานเชื่อมั่นแล้วก็พร้อมท างานด้วยความสมัครใจ ปัญหา
ขององค์กรก็จะลดลงตามไป ๒) บุคคลภายนอก โดยมีผลต่อการสร้างภาพลักษณ์ เช่น ต่อลูกค้า
ในส่วนกิจกรรมบรรษัทบริบาล (Corporate Social Responsibility-CSR) ส าคัญต่อธุรกิจ
อย่างมาก ยกตัวอย่าง กิจกรรมการกุศลทั่วไป โดยส่วนตัวยอมรับว่ากิจกรรมทางสังคมนั้นท าเพื่อหวังผล คือ
ความเชื่อถือของพนักงานที่เกิดขึ้นและตกอยู่กับการบริการต่อลูกค้าของพนักงาน ซึ่งในการท ากิจกรรม
เมื่อลูกค้าที่มาพักทราบก็เป็นการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปในตัว เปรียบเทียบได้ว่าหากมีโรงแรมที่เหมือนกัน
ทุกประการอยู่สองโรงแรม หากโรงแรมหนึ่งมีการจัดการ CSR ที่ดีกว่าก็จะส่งผลให้ลูกค้าใช้บริการของโรงแรม
ที่มีการจัดการ CSR ดีกว่าอย่างแน่นอน
นายภูริต มาศวงศ์ศา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อภิปรายว่า
สหประชาชาติมีอิทธิพลต่อเอเชียอย่างสูง โดยเฉพาะประเทศไทย จุดเริ่มต้นอาจเกิดจาก
ที่มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เข้ามาท่องเที่ยวแล้วพบการใช้แรงงานเด็ก ซึ่งเห็น
ว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในประเทศไทย จากเหตุดังกล่าว จึงท าให้เกิดสัญญาต่างๆ ที่บังคับไทยมาจนถึง
ปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้วได้มีการชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องขนบธรรมเนียมไทยไม่ใช่การใช้แรงงานเด็ก เพราะเป็น
เรื่องที่พ่อแม่สอนให้เด็กช่วยเหลือครอบครัวเพื่อให้เจริญเติบโตขึ้นไปอย่างมีความรับผิดชอบ เป็นการสะท้อน
ว่าให้เห็นว่า ขนบธรรมเนียมที่แตกต่างกันในแต่ละสังคมก็มีสิทธิที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งเรื่องขนบธรรมเนียมที่ดีก็
ควรมีจุดยืนในการปฏิบัติต่อไปแต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีข้อบังคับมาแล้ว ที่สิ่งที่ควรท าต่อไปก็คือ ประโยชน์
ร่วมกันในการเคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันได้ในระบบของโลกที่เปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบธุรกิจ
ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม ปัจจุบันเป็นตลาดของผู้ซื้อ กล่าวคือ ผู้ซื้อ
สามารถเลือกตลาดหรือข้อก าหนดให้ผู้ค้าท าตามได้ ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่ของไทยคือกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย
โดยเป็นกลุ่ม ประเทศที่มีสิทธิและเสียงส่วนใหญ่ในเวทีสหประชาชาติ จากเหตุนี้ ท าให้มีการน าข้อบังคับต่างๆ
ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีมาบีบบังคับให้ผู้ค้าต้องท าตลาดตามใจผู้ซื้อ จึงเกิดเป็น Hotel Contract
Rated ต่างๆ การที่ผู้ค้าต้องยอมรับก็เพื่อเหตุผลทางธุรกิจ เพราะตัวแทนธุรกิจจากกลุ่มประเทศดังกล่าวเป็น
ผู้หาลูกค้าให้ จากการยินยอมดังกล่าว มีผลท าให้รัฐออกเป็นกฎหมายเพื่อให้ทุกองค์กรปฏิบัติไปทิศทาง
เดียวกัน เช่น ตามกฎหมายแรงงาน กฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ซึ่งเป็นการตีกรอบเรื่องสิทธิมนุษยชน
พิจารณาจากหลักการ UNGP สรุปได้ว่า
น ำเสนอเพื่อพิจำรณำในกำรประชุมคณะอนุกรรมกำรด้ำนสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ครั้งที่ 19/2559 วันจันทร์ที่ 4 กรกฎำคม 2559