Page 28 - สรุปผลการสัมมนา เรื่อง ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรมกับการเคารพสิทธิมนุษยชน ตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ ตามกรอบงานขององค์การสหประชาชาติ ในการคุ้มครอง เคารพ และเยียวยา : วันที่ 17 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ทแอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต
P. 28
27
ประจ ำเดือน (news-based) จัดท ำคู่มือต่ำงๆเป็นภำษำไทย (info-based) กำรจัดท ำมำตรฐำนและแนว
ปฏิบัติ (advocacy-based) กำรท ำกิจกรรมร่วมกันระหว่ำงสมำชิก( project-based) เป็นต้น เพรำะทำง
เครือข่ำย UNGC ประเทศไทย เชื่อว่ำองค์กรของเรำเป็นสะพำนเชื่อมระหว่ำงสหประชำชำติกับบริษัทใน
ประเทศไทยรวมทั้งห่วงโซ่อุปทำนด้วย ในกำรนี้ ในฐำนะผู้แทน UNGC ขอเชิญชวนให้องค์กรธุรกิจกำร
ท่องเที่ยวและกำรโรงแรมทุกท่ำนมำเข้ำร่วมกับทำงเครือข่ำย UNGC ประเทศไทย
ผู้ด าเนินรายการสรุปว่ำ ตำมที่ ดร.เสรี นนทสูติ ผู้อภิปรำย กล่ำวในตอนแรกว่ำ กำรเคำรพ
สิทธิมนุษยชนของภำคธุรกิจเป็นหน้ำที่ โดยนัยยะส ำคัญที่ว่ำ หำกธุรกิจกำรโรงแรมและกำรท่องเที่ยวของไทย
จะพัฒนำต่อไปอย่ำงยั่งยืน กำรน ำหลัก UNGP มำใช้เป็นเหมือนทำงรอด และหำกถำมว่ำจะก่อให้เกิดภำระ
หรือไม่ สิ่งเหล่ำนี้ถือเป็นกำรเปลี่ยนแปลงซึ่งต้องมีภำระอย่ำงแน่นอน แต่เป็นภำระที่มองได้ว่ำเป็นต้นทุนและ
ควำมเสี่ยงที่ต้องบริหำรถ้ำท ำแล้วสำมำรถท ำให้ธุรกิจของท่ำนอยู่ต่อไปได้อย่ำงยั่งยืน ในขณะเดียวกัน
ก็เป็นข้อบวกต่อสำยตำประชำคมโลกที่ว่ำธุรกิจกำรโรงแรมและกำรท่องเที่ยวของไทยปลอดกำรละเมิดสิทธิ
มนุษยชน ซึ่งหำกเรำเป็นผู้ใช้สินค้ำและบริกำรก็เหมือนได้มีส่วนร่วมในกำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน
การอภิปรายในช่วงท้าย
ดร.เสรี นนทสูติ ผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วย
สิทธิมนุษยชน ผู้อภิปรำย สรุปว่ำ ในปัจจุบันมีกลไกกำรตรวจสอบนอกจำกภำครัฐเป็นจ ำนวนมำก แม้กระทั่ง
ทำงโซเชียลเน็ตเวิร์ค เมื่อมีกำรสืบค้นข้อมูลที่ไม่ดีก็จะมีผลต่อภำพลักษณ์ในสำยตำชำวโลก เพรำะฉะนั้น
ในปัจจุบัน ธุรกิจห่วงโซ่อุปำทำนจึงไม่ได้เป็นไปอย่ำงเสถียรแต่กลับอ่อนไหวกับเรื่องข่ำวต่ำงๆ ทั้งนี้ ตำมที่
นำงกรรณิกำร์ แสงทอง อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภำพ ได้อภิปรำยถึงกำรแก้ไขข้อพิพำท กำรร้องทุกข์
กำรคุ้มครองพยำน กำรจ่ำยเงินเยียวยำ เป็นต้น นั้น มีควำมเห็นว่ำเป็นเรื่องปลำยน้ ำคือใช้เมื่อมีกรณีที่เกิด
ข้อพิพำทแล้ว จึงไม่อยำกให้ไปแก้ปัญหำกันเมื่อไปจนถึงจุดนั้นแล้ว แต่อยำกให้ภำคธุรกิจทุกท่ำนมีเกรำะ
ป้องกัน และเกรำะที่ดี คือนโยบำยที่ชัดเจน รวมไปถึงกำรสร้ำงควำมเข้ำใจระหว่ำงผู้บริหำรและพนักงำน
มีข้อสังเกตและข้อสรุปที่ขอฝำกไว้ ดังนี้
1) ภำคธุรกิจจะมีเกรำะป้องกันได้อย่ำงไร หำกยังไม่มีนโยบำยที่ชัดเจน
2) หำกภำคธุรกิจเข้ำไปในเครือข่ำยที่ใหญ่กว่ำจะมีผลท ำให้เกิดควำมมั่นใจของนักลงทุน
นักท่องเที่ยวต่ำงประเทศ และในกำรสร้ำงเกรำะป้องกันไม่ควรเป็นเพียงในระดับประเทศ แต่ควรให้ไปถึง
ในระดับอำเซียนด้วย
นางกรรณิการ์ แสงทอง อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้อภิปรำย กล่ำวว่ำ ตำมที่
ได้บรรยำยว่ำกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภำพมีแผนจะท ำแผนปฏิบัติกำรชำติว่ำด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
(NAP) จึงขอสอบถำม รศ..ดร.ประสิทธิ์ ปิวำวัฒนพำนิช อนุกรรมกำรด้ำนสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และ
น ำเสนอเพื่อพิจำรณำในกำรประชุมคณะอนุกรรมกำรด้ำนสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ครั้งที่ 19/2559 วันจันทร์ที่ 4 กรกฎำคม 2559