Page 46 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 46
ประสิทธิผลด้านการปราบปรามมากจนเกินไปและมิได้ให้ความใส่ใจหรือยึดถือหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติงาน
ประกอบกับตัวนโยบายฯ เองก็เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้มีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามด้วย จึงส่งผลให้ภาพลักษณ์ของไทยในสายตา
ของนานาชาติเป็นไปในทางลบ ซึ่งองค์กรต่างๆ ข้างต้นได้ออกมาเรียกร้องในสิ่งเดียวกัน คือ ต้องการให้รัฐบาลไทยจัดตั้งคณะกรรมการ
ที่เป็นกลางและมีความเป็นอิสระขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการวิสามัญฆาตกรรมและการฆ่าตัดตอนที่เกิดขึ้น เพื่อคืนความเป็นธรรม
ให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอนุญาตให้นานาชาติได้เข้ามาตรวจสอบการเสียชีวิตที่เป็นผล
สืบเนื่องมาจากการประกาศสงครามกับยาเสพติดด้วย
แผนภาพแสดงความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายของฝ่ายบริหารและแผนปฏิบัติการของผู้รับนโยบายไปปฏิบัติ
เพื่อผลักดันนโยบายดังกล่าวให้บรรลุผล
นายกรัฐมนตรี/คณะรัฐมนตรี (มาตรการกดดัน)
ประกาศนโยบาย
การใช้วาจาที่รุนแรง
(มาตรการกดดัน) ในการประกาศนโยบาย/มติ ครม.
มติ ครม./ค�าสั่งผู้บังคับบัญชา ที่มีหลักการอนุมัติให้ผู้บังคับบัญชา
ต้องรายงานผลการด�าเนินการ
ในรูปแบบหนังสือเวียน/ สามารถด�าเนินการกับข้าราชการ
ต่อผู้บังคับบัญชาทุกวัน/ผู้บังคับบัญชา
หนังสือสั่งการ ที่มีผลการปฏิบัติหน้าที่
ต้องน�าผลไปรายงานต่อ รมต.
ไม่เป็นไปตามนโยบาย/เป้าหมาย
โดยเร่งด่วนภายในก�าหนดเวลา
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
รับไปปฏิบัติโดยเร่งด่วน/
มีระยะเวลาที่จ�ากัด
สูญหายระหว่างการเดินทางกลับ
จัดท�าบัญชีด�า
จากการรายงานตัว
ถูกฆาตกรรมโดยไม่ทราบตัว
บุคคลที่มีชื่อในบัญชีรายงานตัว ผู้กระท�าความผิด ซึ่ง ตร.แถลงว่า
เป็นการ “ฆ่าตัดตอน”
ถูก ตร.วิสามัญฆาตกรรม
ผู้เสียหาย/ญาติผู้เสียหายร้องเรียน
ต่อหน่วยงานของรัฐ/ฟ้องคดีต่อศาล โดยอ้างเหตุขัดขวางการจับกุม
25
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖