Page 51 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 51

อย่างไรก็ตาม มิเพียงแต่การกวาดล้างยาเสพติดด้วยความรุนแรงโดยก�าลังทหารและต�ารวจจ�านวนมากจะมิได้ช่วย
               ให้ความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างเข้มแข็ง แต่ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าตลอดระยะเวลาของการด�าเนินนโยบายท�าสงครามกับ

               ยาเสพติดของรัฐบาล ที่มีนายเฟลิเป้ คาลเดรอน เป็นประธานาธิบดีนั้น กล่าวคือ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. ๒๐๐๖ - ค.ศ. ๒๐๑๒
               (พ.ศ.  ๒๕๔๙  -  ๒๕๕๕)  มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและในวงกว้างทั่วประเทศเม็กซิโก  นอกจาก
               การเสียชีวิตดังกล่าวแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุดอันเป็นผลกระทบจากการกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลเห็นจะ

               ได้แก่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๗ เป็นต้นมา มีคดีร้องเรียนเกี่ยวกับคนสูญหายเป็นจ�านวนไม่ต�่ากว่า ๒๕๐ คดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนสูญหาย
               เป็นจ�านวนหลายหมื่นคน  ทั้งนี้  ในจ�านวนนี้มีไม่ต�่ากว่า  ๑๔๙  คดีที่  (องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนมีหลักฐานแน่ชัด)  พบว่าเป็น
               “การบังคับให้บุคคลสูญหาย” (enforced disappearance) เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระท�าดังกล่าว

                              ในภาพรวม ตัวอย่างเช่น มลรัฐ Coahuila มีบุคคลสูญหายเฉพาะในมลรัฐนี้เป็นจ�านวน ๑,๘๓๕ คน นับแต่
                                                         31
               เดือนธันวาคม ค.ศ. ๒๐๐๖ - เดือนเมษายน ค.ศ. ๒๐๑๒  หรือตามบัญชีรายชื่อที่จัดท�าขึ้นโดยกระทรวงมหาดไทยและส�านักงานอัยการ
               สหพันธรัฐ (the Federal Prosecutor’s Office) ปรากฏชื่อบุคคลผู้สูญหายหรือหายตัวไปในระหว่างช่วงเวลาที่นายเฟลิเป้ คาลเดรอน

               เป็นประธานาธิบดี เป็นจ�านวนมากกว่า ๒๕,๐๐๐ คน ซึ่งยังคงไม่ทราบชะตากรรม และในจ�านวนนี้มีทั้งผู้หญิงและเด็กรวมอยู่ด้วย
                              ในเชิงรายคดี  ในส่วนนี้  อาจพอยกตัวอย่างของคดีการบังคับบุคคลให้สูญหายในกรณีต่างๆ  เพื่อเป็นกรณีศึกษา

               ที่แสดงถึงสภาพการณ์โดยรวมของการด�าเนินนโยบายกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยแบ่งออกเป็นห้ากรณี
               ใหญ่ๆ ได้แก่
                              (๑) กรณีการเข้าไปมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของรัฐในการปฏิบัติการอันท�าให้บุคคลสูญหาย

                              (๒) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่รีบด�าเนินการใดๆ ที่จ�าเป็นโดยทันทีภายหลังเกิดการสูญหายของบุคคล
                              (๓) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจกระท�าการให้เกิดข้อผิดพลาดหรือท�าข้อมูลเท็จอันเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน

               เพื่อติดตามค้นหาผู้สูญหาย
                              (๔) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวโทษหรือกล่าวหาบุคคลผู้สูญหายไป
                              (๕) กรณีมีความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมมือกับกลุ่มอาชญากรรม ที่จัดตั้งขึ้นในการท�าให้บุคคลสูญหาย

               (เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ประโยชน์ในข้อมูลของญาติผู้เสียหาย)
                              โดยแต่ละกรณีนั้น สามารถแยกพิจารณาในรายละเอียดได้ ดังนี้

                              (๑) กรณีการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของรัฐในการปฏิบัติการอันท�าให้บุคคลสูญหาย
                                 ตามข้อมูลที่ได้องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนได้รับประกอบหลักฐานที่แน่ชัด ในการสูญหายของบุคคล
                จ�านวนมากในช่วงระหว่างการด�าเนินนโยบายกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาลของนายเฟลิเป้ คาลเดรอน มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ของ

                รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในหลายๆ กรณี ในที่นี้ขอยกตัวอย่างบางกรณี ได้แก่
                                 (๑.๑)  กรณีการเข้าไปมีส่วนร่วมปฏิบัติการอันท�าให้บุคคลสูญหายของเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชนาวี  (the

                Navy personnel)
                                       ตัวอย่างเช่น กรณีการสูญหายไปของนาย José Fortino Martinez Martinez อายุ ๓๓ ปี (เดือนมิถุนายน
                ค.ศ. ๒๐๑๑) หรือกรณีการสูญหายไปของนาย Jesus Victor Liano Munoz อายุ  ๒๒ ปี และนาย René Azael Jasso Maldonado

                (เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๒๐๑๑)
                                       นาย  José  Fortino  Martinez  Martinez  ประกอบกิจการร้านสะดวกซื้อร่วมกับภรรยาในโรงเรียน
                แห่งหนึ่งในเมือง NuevoLaredo ในมลรัฐ Tamaulipas

                                                                   32
                                       ภรรยาของนาย Martinez เล่าให้ฟัง  ว่า ในวันที่ ๕ มิถุนายน ค.ศ. ๒๐๑๑ ขณะที่นาย José Fortino
                Martinez Martinez นอนหลับอยู่กับภรรยาและบุตรอีกสี่คน (อายุ ๑๖ ปี ๑๒ ปี ๗ ปี และ ๓ ปี ตามล�าดับ) เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น.


                       31
                         โปรดดู Human Rights Watch, Mexico’s disappeared, The Enduring Cost of a Crisis Ignored, อ้างแล้ว, หน้า ๒.
                       32
                         นาง Oralia Guadalupe Villasenor Vasquez ภรรยาของนาย Martinez ให้สัมภาษณ์แก่องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights
               Watch) ณ เมือง Monterry มลรัฐ Nuevo Leon เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ค.ศ. ๒๐๑๒
               30
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56