Page 45 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 45
การฆ่าโดยพลการ (UN Commission on Human Rights on Extrajudicial, Summary or Arbitrary Executions) ได้ออก
แถลงการณ์แสดงความกังวลในเรื่องที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า ๑,๐๐๐ คน จากการปราบปรามการกระท�าความผิดด้านยาเสพติดของ
รัฐบาลไทย โดยขอให้มีการสอบสวนผู้เสียชีวิตทุกกรณีอย่างโปร่งใส และได้เรียกร้องให้ทางการไทยให้ความมั่นใจว่า “จะยึดถือ
ข้อจ�ากัดในการใช้อาวุธร้ายแรงตามที่มีก�าหนดไว้ในหลักการพื้นฐานของสหประชาชาติว่าด้วยการใช้ก�าลังและอาวุธปืนโดยเจ้าหน้าที่
บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและไม่มีข้อยกเว้น” 27
ต่อมา ในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๖ ส�านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้แจ้งมายังรัฐบาลไทย
ว่า ทางส�านักงานฯ จะส่งผู้แทนพิเศษมายังประเทศไทยเพื่อตรวจสอบการฆ่าตัดตอนที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเดือนแรกของการประกาศสงคราม
ขั้นแตกหักกับยาเสพติด และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของไทย
อยู่โดยตลอด และต้องการให้ทางการไทยชี้แจงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเนื่องมาจากการด�าเนินการปราบปรามยาเสพติด
อย่างรุนแรง ซึ่งรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจ�าปีที่ไทยมีพันธะต้องส่งให้องค์การสหประชาชาติ ในฐานะที่เป็นคณะกรรมาธิการ
ด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาตินั้น มิได้ให้รายละเอียดหรือค�าชี้แจงที่น่าพอใจในเรื่องการกระท�าที่เข้าข่ายการละเมิด
สิทธิมนุษยชนเท่าใดนัก
ดังนั้น ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๘ คณะกรรมาธิการชุดนี้ได้ส่งเอกสารถึงรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อขอให้
ชี้แจงประเด็นต่างๆ ถึง ๒๖ ประเด็น ซึ่งพิจารณาแล้วว่าเข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามสนธิสัญญาว่าด้วยการให้ความคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ไทยได้ให้สัตยาบันรับรองไว้ โดยได้ผนวกเอาเรื่องการท�าสงครามกับยาเสพติดเข้าไว้ด้วย ซึ่งคณะ
กรรมาธิการฯ ต้องการให้รัฐบาลไทยชี้แจงมาตรการในการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัยที่ถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย
และขั้นตอนการสอบสวนยอดผู้เสียชีวิตจากการท�าสงครามกับยาเสพติด ตลอดจนอธิบายถึงวิธีการเยียวยาทางกฎหมายต่อเหยื่อผู้ถูก
ละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย และเปิดเผยข้อมูลการปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและผู้ติดยาเสพติด
ที่อยู่ในอารักขาของเจ้าหน้าที่ต�ารวจ ทั้งนี้ ทางองค์การสหประชาชาติยังคงมีความประสงค์ที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในช่วงวันที่
๒๖ พฤษภาคม – ๓ มิถุนายน ๒๕๔๘ ด้วย
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย (Asian Human Rights Commission: AHRC) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิ
มนุษยชนระหว่างประเทศได้ตั้งค�าถามแก่รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณฯ เช่นเดียวกันว่า เพราะเหตุใดหลักกฎหมายจึงกลายเป็นเหยื่อของการ
รณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โดยได้กล่าวหารัฐบาลไทยว่า ได้เปิดทางให้มีการสังหารผู้ถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดได้อย่างปราศจาก
การถูกตั้งข้อหาจ�านวนมากกว่า ๒ พันคน และเห็นว่า ผลของการวิสามัญฆาตกรรมจะน�าไปสู่ปัญหาที่มีความซับซ้อนมากยิ่งกว่าความ
เสียหายที่เกิดจากการค้าและการเสพยาเสพติด นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการดังกล่าวยังได้น�าเสนอรายงานอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณี
ที่รัฐต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งหมายรวมถึงประเทศไทยด้วย เพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงส่งผลให้เกิดวงจรการกระท�าผิด
อย่างซ�้าซากและท�าให้ยากต่อการแก้ปัญหามากยิ่งขึ้น และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ได้ออกมายอมรับเกี่ยวกับการวิสามัญฆาตกรรม เป็น
สิ่งที่ท�าให้ภาพลักษณ์ของไทยเป็นไปในเชิงลบ เพราะถูกมองว่าเป็นประเทศที่ละเลยหลักกฎหมายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนั้น
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียจึงได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ สร้างความมั่นใจแก่ประชาคมโลกว่า กระบวนการแก้ไข
ปัญหาอาชญากรรมของไทยต้องได้รับการปฏิบัติตามหลักแห่งกฎหมาย การวิสามัญฆาตกรรมที่เกิดขึ้นควรต้องยุติลง และผู้ที่ถูกกล่าวหา
ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับการกระท�าความผิดด้านยาเสพติดต้องได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม รวมทั้งต้องอนุญาตให้มีการ
ตรวจสอบจากนานาชาติได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนและเป็นอิสระภายใต้การก�ากับดูแลขององค์การสหประชาชาติด้วย
การวิพากษ์วิจารณ์ขององค์กรต่างประเทศที่เฝ้าระวังด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนมีมุมมองไปในทิศทาง
เดียวกัน คือ การขึ้นบัญชีด�า การวิสามัญฆาตกรรม และการฆ่าตัดตอนที่เกิดขึ้นในช่วงของการประกาศสงครามกับยาเสพติดของ
รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณฯ เป็นการกระท�าที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ถึงขั้นเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมุ่งเน้น
27
“UN Expert on Executions Express Concern Over Recent Killings in Thailand” United Nations press release, February 24, 2003”
24
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖