Page 40 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 40
(๒.๒) การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต่อบุคคลผู้รายงานตัว
ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามเอกสารหรือข้อมูลที่ฟังเป็นยุติ บุคคลผู้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ฝ่าย
ปกครองตามหนังสือเรียกให้ไปรายงานตัวหรือตามประกาศเป็นการทั่วไป นั้น ในระยะแรกกรณีผู้ค้า/ผู้ผลิต ออกมารายงานตัว ยังไม่
ให้ ศตส.จ./อ./กิ่ง อ. น�าไปลดยอดเป้าหมาย ซึ่ง ศตส.มท. จะได้ก�าหนดหลักเกณฑ์กรณีนี้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการก�าหนด
หลักสูตรโครงการท�าความดีเพื่อแผ่นดินไทย ซึ่งได้มีการก�าหนดให้มีกระบวนการฝึกอบรม ตลอดจนผ่านการรับรองจากผู้น�าท้องถิ่น
ผู้น�าทางศาสนาท้องถิ่น หรือข้าราชการระดับสัญญาบัตร สามารถได้รับการเสนอชื่อต่อคณะกรรมการจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุมัติให้
ลบชื่อออกจากบัญชีได้ ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดประกอบด้วยมาตรการสองด้าน ได้แก่ การให้โอกาสแก่ผู้มีชื่อเป็น
ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลิกพฤติการณ์ด้านยาเสพติดอย่างสันติ และการใช้บังคับมาตรการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด 23
๑.๓ ผลการด�าเนินนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดและสภาพปัญหา
หรือผลกระทบโดยรวมที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินนโยบายดังกล่าว
ภายหลังครบก�าหนดเวลา ๓ เดือนของการด�าเนินนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้ขั้นแตกหักเพื่อเอาชนะ
ยาเสพติด กล่าวคือ นับแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๖ ปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพปัญหาและ
ผลกระทบโดยรวมที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ เนื่องจากมี
“คดีฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์” ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นจ�านวนมากเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาการด�าเนินนโยบายของรัฐบาล
ในการปราบปรามยาเสพติด ท�าให้มีผู้ได้รับความเสียหาย “โดยไม่เป็นธรรม” จากการด�าเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล และองค์กร
พัฒนาเอกชนไปยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ “การสังหารนอกกระบวนการยุติธรรมในช่วงการด�าเนินการปราบปรามยาเสพติด” อันเป็น
“การละเมิดสิทธิมนุษยชน” ต่อองค์กรระหว่างประเทศอีกด้วย
ดังนั้น ในส่วนนี้ จะได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงในสามประการ ได้แก่ ๑.๓.๑ ผลการด�าเนินงานการปราบปรามยาเสพติด ๑.๓.๒
ผลกระทบจากการด�าเนินนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้ขั้นแตกหักเพื่อเอาชนะยาเสพติด และ ๑.๓.๓ การร้องเรียน
เกี่ยวกับการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
๑.๓.๑ ผลการด�าเนินงานการปราบปรามยาเสพติด 24
ในช่วงระหว่างวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๖ ผลการด�าเนินการปราบปรามยาเสพติด
ปรากฏ ดังนี้
๑. ผู้ผลิต มีการด�าเนินการจับกุมผู้ผลิต ๔๔๐ ราย รวมผู้ต้องหา ๓๕๖ คน
๒. นักค้ารายส�าคัญ มีการด�าเนินการจับกุมนักค้ารายส�าคัญ ๑,๗๒๑ ราย รวมผู้ต้องหา ๒,๐๑๓ คน
๓. นักค้ารายย่อย มีการด�าเนินการจับกุมนักค้ารายย่อย ๑๔,๓๒๑ ราย รวมผู้ต้องหา ๑๕,๒๗๖ คน
๔. ผู้ครอบครองยาเสพติด มีการด�าเนินการจับกุมผู้ครอบครองยาเสพติด ๒๐,๒๙๗ ราย รวมผู้ต้องหา ๒๐,๗๙๘ คน
๕. ผู้เสพ มีการด�าเนินการจับกุมผู้เสพ ๒๐,๗๑๑ ราย รวมผู้ต้องหา ๒๑,๘๗๔ คน
๖. มูลค่าทรัพย์สินที่ยึด อายัด รวม ๑,๖๐๘,๘๑๒,๖๑๒ บาท
๗. ผู้ค้าที่มาแสดงตนต่อทางราชการ ๔๒,๓๗๒ คน
๘. การด�าเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม ๑,๒๙๓ คน
23
โปรดดู ค�าสั่งส�านักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๙/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๔๖ เรื่อง การต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด, ข้อ ๔.๖.และ ๔.๗
24
โปรดดู รายงานเบื้องต้นของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ๑
19
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖