Page 191 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 191
ของธรรมนูญกรุงโรมฯ เท่านั้น “เป็นหลัก” เพราะรัฐภาคีได้แสดงเจตนาผูกพันทางกฎหมายที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของธรรมนูญ
กรุงโรมฯ ทุกประการโดยเคร่งครัด และยอมรับเขตอ�านาจศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นการทั่วไป กล่าวคือ ยอมให้ศาลอาญา
ระหว่างประเทศมีอ�านาจเหนืออาชญากรรมที่ก่อขึ้นในดินแดนของตนหรือที่ผู้ถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมเป็นคนถือสัญชาติ
ตนทุกคดี โดยไม่จ�าเป็นต้องแสดงเจตนายอมรับอ�านาจศาลเหนือคดีแต่ละคดีเป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่งแต่อย่างใด โดยนัยดังกล่าว
รัฐที่เป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรมฯ จึงตกอยู่ภายใต้เขตอ�านาจศาลทั้งในด้านที่รัฐดังกล่าวเป็นผู้เสนอคดีต่อศาล และในด้านที่คนถือ
สัญชาติของรัฐดังกล่าวถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้องเป็นคดีต่อศาลเช่นกัน หากธรรมนูญกรุงโรมฯ ยอมให้รัฐที่มิได้เป็นภาคีของธรรมนูญ
กรุงโรมฯ เสนอเรื่องการก่ออาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศต่อศาลได้โดยง่าย อาจเป็นการเปิดช่องให้มีการใช้ศาลอาญาระหว่าง
ประเทศเป็นเครื่องมือเพื่อก่อความเดือดร้อนเสียหายแก่รัฐอื่นได้ ในทางกลับกัน หากบุคคลซึ่งถือสัญชาติของรัฐที่มิได้เป็นภาคีถูกรัฐภาคี
ของธรรมนูญกรุงโรมฯ กล่าวหาหรือฟ้องเป็นคดีต่อศาล รัฐที่มิได้เป็นภาคีนั้นอาจจะไม่แสดงเจตนายอมรับอ�านาจศาลก็ได้ กล่าวอีก
นัยหนึ่ง รัฐที่มิได้เป็นภาคีจะแสดงเจตนายอมรับอ�านาจศาลก็เฉพาะแต่ในกรณีที่ตนจะเสนอคดีต่อศาล แต่จะไม่แสดงเจตนายอมรับ
อ�านาจศาลเมื่อคนที่ถือสัญชาติตนถูกรัฐอื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาล ซึ่งย่อมไม่สมเหตุผลและไม่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม โดยที่อาชญากรรมที่อยู่ในเขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศตามที่ก�าหนดไว้ใน
ธรรมนูญกรุงโรมฯ เป็น “อาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุด” ซึ่งอยู่ในความห่วงใยของประชาคมระหว่างประเทศโดยรวม 447 และเป็นภัย
คุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของประชาคมระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ กรณีจึงย่อมมิอาจยอมรับได้หากผู้ก่ออาชญากรรมที่
ร้ายแรงที่สุดต้องถูกปล่อยให้ลอยนวลและมิได้รับการลงโทษ ด้วยเหตุผลแค่เพียงว่าไม่มีศาลที่มีเขตอ�านาจเหนือคดีดังกล่าวในรัฐที่
มิได้เป็นภาคีซึ่งคนที่ถือสัญชาติของรัฐนั้นได้กระท�าลงในดินแดนของตน ดังนั้น ธรรมนูญกรุงโรมฯ จึงยังได้เปิดช่องให้คดีอาชญากรรม
ร้ายแรงอาจได้รับการเสนอไปสู่ศาลโดยรัฐที่มิได้เป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรมฯ ได้ ช่องทางส�าคัญช่องทางหนึ่งที่มีความเหมาะสมและมี
448
ความเป็นไปได้ คือ การเริ่มคดีเองโดยอัยการ (proprio motu) กล่าวคือ อัยการประจ�าศาลสามารถเริ่มคดีหรือเริ่มการสืบสวน
สอบสวนได้ด้วยตนเองเกี่ยวกับอาชญากรรมที่อยู่ในเขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ซึ่งในกรณีเช่นนี้อัยการจะต้องวิเคราะห์
ความหนักแน่นของข้อมูลที่ได้รับ และเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว อัยการสามารถแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมจากรัฐ องค์กรของสหประชาชาติ
449
องค์การระหว่างรัฐบาล หรือองค์การที่มิใช่รัฐบาล หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออื่นๆ ที่อัยการเห็นสมควรได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์
และเงื่อนไขที่ก�าหนดไว้ในธรรมนูญกรุงโรมฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการวินิจฉัยว่าจะเริ่มการสืบสวนสอบสวนหรือไม่ ให้อัยการ
พิจารณาว่า 450
• ข้อมูลที่ได้รับมามีพื้นฐานที่สมเหตุผลที่จะพิจารณาได้ว่ามีการประกอบอาชญากรรมแล้ว หรือก�าลังมี
การประกอบอาชญากรรมภายในเขตอ�านาจของศาลหรือไม่
• คดีได้รับหรือจะมีการรับคดีไว้พิจารณาโดยรัฐซึ่งมีเขตอ�านาจเหนือคดีนั้นหรือไม่ หรือคดีนั้นได้รับการ
สืบสวนสอบสวนโดยรัฐซึ่งมีเขตอ�านาจเหนือคดีและรัฐได้ตัดสินใจที่จะไม่ฟ้องร้องด�าเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่การตัดสินใจนั้น
451
เป็นผลมาจากความไม่สมัครใจหรือความไม่สามารถของรัฐอย่างแท้จริงที่จะฟ้องร้องด�าเนินคดีหรือไม่
447 อันได้แก่ อาชญากรรมอันเป็นการท�าลายล้างเผ่าพันธุ์ (the crime of genocide) อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crimes against humanity)
อาชญากรรมสงคราม (War crimes) อาชญากรรมอันเป็นการุกราน (the crime of aggression)
Rome Statute, Article 5 Crimes within the jurisdiction of the Court, paragraph 1.
448 แม้ประเทศไทยจะสามารถแสดงเจตนายอมรับอ�านาจศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นการเฉพาะคดี หลังจากที่รัฐภาคีได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยัง
อัยการประจ�าศาลอาญาระหว่างประเทศ อันจะท�าให้ศาลอาญาระหว่างประเทศมีเขตอ�านาจเหนือคดีดังกล่าวก็ตาม แต่การร้องขอให้รัฐภาคีของธรรมนูญกรุงโรมฯ
ด�าเนินการเช่นนั้นย่อมมิใช่เรื่องง่าย เนื่องจากการด�าเนินการเช่นนั้นอาจเป็นการแทรกแซงหรือก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศไทย และโดยทั่วไป ไม่มีรัฐภาคีใด
ที่ประสงค์จะกระท�าเช่นนั้นเพราะอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ นอกจากนี้ การเสนอเรื่องผ่านคณะมนตรีความมั่นคง (The Security Council)
ก็มิใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เนื่องจากมีกระบวนการและขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งต้องใช้ระยะเวลาในการด�าเนินการที่ยาวนานมาก
449
Rome Statute, Article 15 Prosecutor, paragraph 2.
450
Part 5 INVESTIGATION AND PROSECUTION. Rome Statute, Article 53 Initiation of an investigation, paragraph 1.
451
Rome Statute, Article 17 Issues of admissibility, paragraph 1.
170
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖