Page 159 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 159
• รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง
โดยก�าหนดให้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลการด�าเนินการประจ�าวันเกี่ยวกับจ�านวนผู้ผลิตหรือผู้ค้ายาเสพติด ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการของ
411
กระทรวงมหาดไทย โดยก�าหนดให้รายงานเป็นรายวันและรายงานเฉพาะใน ๓ กรณีเท่านั้น คือ ถูกจับกุม วิสามัญ และเสียชีวิต
(ด้วยเหตุต่างๆ )
• บทลงโทษกรณีที่องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่สามารถปฏิบัติการให้เป็น
ไปตามเกณฑ์ชี้วัดได้ โดยจะถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นหย่อนสมรรถภาพและต้องถูกลงโทษสถานหนักด้วยการพ้นจากต�าแหน่ง ดังที่
พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้เคยกล่าวไว้ในการมอบหมายและชี้แจงนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแก่หัวหน้าส่วนราชการ
และผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการด�าเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ความว่า “...สามเดือนต่อไปนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๖ ต้องท�าอย่างจริงจัง ครบ ๓ เดือนจะประเมินผล ถ้าวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้บังคับการต�ารวจภูธรจังหวัด ผู้ก�ากับ นายอ�าเภอ ไม่ทราบว่าใครค้ายาเสพติดในพื้นที่ตัวเอง แสดงว่าหย่อนสมรรถภาพ...” หรือ
“...ถ้าล้มเหลว ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งผู้บังคับการต�ารวจภูธรจังหวัดก็คงต้องไปด้วยกัน...”
การก�าหนดนโยบายและการปฏิบัติการตามนโยบายด้วยระยะเวลาที่เร่งรัดและขาดความ
ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางหรือแนวทางในการด�าเนินการที่เหมาะสม หากแต่ก�าหนดเงื่อนไขที่เป็นการกดดันการฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ของรัฐที่เกี่ยวข้องในลักษณะดังกล่าว ย่อมท�าให้องค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องตกอยู่ในสภาวะ “ถูกกดดันอย่างรุนแรง”
ที่จะต้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลแต่เพียงสถานเดียว และต้องแปลงนโยบายและข้อสั่งการไปสู่การปฏิบัติอย่าง
รีบเร่ง โดยด�าเนินการในเรื่องต่างๆ ตามที่องค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับจะเห็นสมควรเอง
(๑.๓) การก�าหนดให้รวบรวมข้อมูลบุคคลเป้าหมายเพื่อจัดท�าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ที่ขาดหลักเกณฑ์ที่โปร่งใส
เมื่อองค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐตกอยู่ในสภาวะที่ถูกกดดันอย่างรุนแรงและต้องปฏิบัติการ
ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างรีบเร่ง “เงื่อนไขประการแรก” และ “ประการส�าคัญที่สุด” ที่องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของ
รัฐจะต้องรีบเร่งด�าเนินการเพื่อการด�าเนินการให้บรรลุเป้าหมายเช่นนั้น เห็นจะได้แก่ การรวบรวมข้อมูลบุคคลและพื้นที่เป้าหมายเพื่อ
จัดท�าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
412
ในการนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีข้อสั่งการเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๖ ให้องค์กรของรัฐ
หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันได้แก่ ศตส.จ./อ./กิ่ง อ. รวบรวมข้อมูลเป้าหมายบุคคล/เป้าหมายพื้นที่ส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยภายใน
วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ และส�าเนาข้อมูลดังกล่าวให้ส�านักงาน ป.ป.ส. ทราบด้วย หากแต่กระทรวงมหาดไทยมิได้ก�าหนด
หลักเกณฑ์และวิธีการในการรวบรวมข้อมูลเป้าหมายบุคคลและเป้าหมายพื้นที่และในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
อย่างชัดเจนและเหมาะสมแต่ประการใด ด้วยเหตุนี้ ในการรวบรวมข้อมูลบุคคลเป้าหมายเพื่อจัดท�าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
องค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องต่างก็ด�าเนินการไปตามที่ตนเองเห็นสมควร และต้องจัดท�าอย่างเร่งรีบด้วย เนื่องจาก
องค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องจึงมีระยะเวลาเพียง ๔ วันเท่านั้น ในการด�าเนินการรวบรวมเป้าหมายบุคคลและเป้าหมายพื้นที่ อีกทั้งในชั้น
ของการจัดท�าและเสนอบัญชีดังกล่าวเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของกรอบระยะเวลาสามเดือนของการปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบายของ
รัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดแล้ว โดยนัยเช่นนี้ องค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องจึงต้องด�าเนินการรวบรวมข้อมูลเป้าหมายบุคคลและ
เป้าหมายพื้นที่อย่างเร่งด่วน ตามวิธีการที่ตนเห็นว่าเหมาะสมและสะดวกรวดเร็ว เพื่อที่จะได้ส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยได้ทันตาม
ก�าหนดเวลา กรณีจึงเป็นการเปิดช่องให้มีการใช้อ�านาจหน้าที่โดยมิชอบขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในการ
จัดท�าบัญชีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
411
หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ศตส.มท ๐๒๑๑.๑/ว๒๔ ลงวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจการด�าเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
ของ ศตส.จ./
412
หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ศตส.มท ๐๒๑๑.๑/ว๓๔๓ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๖ เรื่อง การด�าเนินการตามข้อสั่งการของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
138
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖