Page 75 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน
P. 75

แม้ในมาตรา ๓๐๕ จะอนุญาตให้สิทธิผู้หญิงตั้งครรภ์ในการยุติการตั้งครรภ์ได้  แต่เป็นการใช้

                 สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ภายใต้อ�านาจและการตัดสินใจของแพทย์ ไม่ใช่หญิงเจ้าของครรภ์เอง และใน

                 ประมวลกฎหมายจะคุ้มครองหญิงตั้งครรภ์จากความรุนแรง ตามมาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๗๗ มาตรา

                 ๒๘๒ มาตรา ๒๘๓ หรือ มาตรา ๒๘๔ ซึ่งหมายถึง การตั้งครรภ์จากการข่มขืนช�าเรา หรือใช้อุบาย

                 หลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้ก�าลังประทุษร้าย ใช้อ�านาจครอบง�าผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจ ท�าให้

                 ผู้หญิงตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งเป็นการคุ้มครองผู้ถูกละเมิดสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์

                 แต่ในประมวลกฎหมายเองก็ได้ละเมิดสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ด้วยการไม่ให้ผู้หญิงมีสิทธิในการตัดสินใจ

                 อย่างอิสระและรับผิดชอบในเรื่องจ�านวนบุตร เวลาที่จะมีบุตร และระยะห่างของการมีบุตรแต่ละคน

                 มีสิทธิในการตัดสินใจอย่างเสรีและรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับเพศวิถี สุขภาพทางเพศ

                 และเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์ โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ บังคับ หรือใช้ความรุนแรง ตามสิทธิในการมีชีวิต

                 อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิในการตัดสินใจว่าจะมีบุตรหรือไม่และจะมีเมื่อใด และสิทธิ

                 ในการดูแลและป้องกันสุขภาพ


                       แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามาตรา ๒๗๗ เปิดโอกาสให้เด็กที่อายุต�่ากว่า ๑๕ ปี สามารถท�าแท้งได้

                 อย่างถูกกฎหมาย เพราะระบุไว้ว่า



                               “มาตรา ๒๗๗ ผู้ใดกระท�าช�าเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของ

                           ตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม...”



                       ซึ่งจากการตีความโดยอาศัยตัวบทกฎหมาย เยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์และอายุต�่ากว่า ๑๕ ปี

                 สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ตามมาตรา ๓๐๕



                       อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายจะมีช่องว่างในการตีความ ที่เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนหญิง

                 ตั้งครรภ์สามารถใช้สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยาวชนที่อายุต�่ากว่า ๑๕ ปี แต่ต้อง

                 ผ่านการพิจารณาและการตีความโดยแพทย์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สร้างปัญหาต่อการตีความและการ

                 ปฏิบัติ ท�าให้แพทย์ปฏิเสธการท�าแท้ง เพื่อความปลอดภัยทางกฎหมายของผู้เป็นแพทย์เอง ซึ่งขัด

                 ต่อหลักสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ที่การประกันสุขภาพของรัฐบาล และบุคลากรทางการแพทย์จะต้อง

                 บริการต่อผู้หญิงโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน มีความละเอียดอ่อน เข้าใจมิติเพศภาวะ และยึดถือ

                 ความสมัครใจของผู้รับบริการที่ได้ข้อมูลครบถ้วนเป็นหลัก







                             74    // ปัญหำเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80