Page 62 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน
P. 62

เป็นที่น่าสังเกตว่า บทบัญญัติที่เกี่ยวกับรัฐ จะอยู่ในหมวดของ อ�านาจและหน้าที่ความ

                  รับผิดชอบของรัฐ ในการปรับปรุงการเข้าถึงและคุณภาพของข้อมูลข่าวสาร การศึกษา การให้ค�าปรึกษา

                  และการบริการด้านการคุมก�าเนิด อย่างไรก็ตาม กฎหมายมีการย้อนแย้งกันเองในแง่ที่ว่า นโยบาย

                  การวางแผนครอบครัวจะก�าหนดและก�ากับโดยความพยายาม การวางแผนการตั้งครรภ์จะต้องผ่าน

                  หลักและบรรทัดฐานทางศาสนา สถานภาพของความก้าวหน้าทางสังคม-เศรษฐกิจและวัฒนธรรม

                  และค่านิยมของชุมชน นอกจากนี้ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สิทธิของบุคคลส่วนหนึ่งย่อมถูกลิดรอน

                  หากต่างจากค่านิยมทางสังคมและหลักทางศาสนา ที่ไม่ได้เอื้อต่อการด�ารงอยู่ของเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์

                  โดยไม่พร้อม ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงสิทธิที่บัญญัติไว้ในกฎหมายได้


                        Population Law บัญญัติว่า การให้บริการด้านการคุมก�าเนิดยังคงจ�ากัดเฉพาะสามีภรรยา

                  ที่สมรสกันแล้วเท่านั้น ขณะเดียวกัน New Health Law (Law No. 36/2009) ให้ความส�าคัญกับ

                  สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ และอนุญาตให้สามารถท�าแท้งโดยปลอดภัยได้ส�าหรับกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทาง

                  การแพทย์ และกรณีข่มขืนกระท�าช�าเราที่เป็นสาเหตุของการตั้งครรภ์ แต่ยังคงต้องมีการพัฒนากฎ

                  ระเบียบส�าหรับการด�าเนินงาน ยาคุมก�าเนิดแบบที่มีฮอร์โมนถูกระบุว่าเป็นยาและต้องมีใบสั่งยาจาก

                  แพทย์ ความก�ากวมของกฎหมายที่ก่อให้เกิดปัญหาการตีความกฎหมาย ท�าให้เกิดความไม่เสมอภาค

                  และการเข้าไม่ถึงการบริการด้านสุขภาพ การวางแผนครอบครัวและการคุมก�าเนิดของเยาวชนหญิง

                  เช่นเดียวกับประเทศฟิลิปปินส์ ความคิดความเชื่อทางศาสนามีอิทธิพลอย่างมากต่อการเข้าถึง

                  สิทธิด้านต่างๆ ของเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม



                        กล่าวโดยสรุป จากการศึกษากฎหมายของทั้งสามประเทศ มีข้อเหมือนและแตกต่างไปตาม

                  บริบททางสังคมและวัฒนธรรม ฐานคิดของสังคมที่เป็นตัวก�ากับและสะท้อนออกมาในตัวบทกฎหมาย

                  นโยบายและมาตรการ แม้ว่าทั้งสามประเทศจะรับเอามุมมองเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่

                  น�าเข้าจากตะวันตก แต่การน�าแนวคิดนี้มาใช้มีความแตกต่างกันไปตามบริบทของแต่ละประเทศ

                  ด้วยเช่นกัน กฎหมายที่สะท้อนฐานคิดทางสังคมและวัฒนธรรม บางส่วนย้อนแย้งกับกติการะหว่าง

                  ประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ภาค ๒ ข้อ ๕ ซึ่งกล่าวว่า
















                                                   ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ //  61
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67