Page 57 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน
P. 57
รวมถึงความร่วมมือระหว่างครอบครัวและรัฐเรื่อง
เพศศึกษาของเยาวชน และการให้บริการด้านสุขภาพ
โดยปราศจากอคติ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานและหน้าที่
ของบิดามารดาในการให้การศึกษาแก่บุตรของตน
แต่ในข้อที่ (๗) ระบุเรื่องการป้องกันการท�าแท้งและ
การจัดการภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์
ซึ่งจะเห็นได้ว่ากฎหมายมีความย้อนแย้งกันเอง
ในเรื่องสิทธิที่ผู้หญิงและเยาวชนหญิงพึงจะได้รับ
อย่างเต็มที่ในเนื้อตัวร่างกายของตนเอง
๓. สิทธิในก�รได้รับข้อมูลข่�วส�รและ
ก�รศึกษ� (Rights to Information and Education)
ระบุไว้ในข้อก�าหนดที่ ๒๔ สิทธิในการศึกษาและ
การอบรม และข้อก�าหนดที่ ๒๖ การเข้าถึงข้อมูล
ข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายด้านผู้หญิง
จากบทบัญญัติต่างๆ ในกฎหมายที่น�ามาศึกษาพบว่า แม้กฎหมายจะบัญญัติและให้ความ
คุ้มครองสิทธิด้านต่างๆ ของเด็ก เยาวชน และผู้หญิง แต่ถูกก�ากับไว้ด้วยความเชื่อทางศาสนา และ
บรรทัดฐานทางสังคมและวัฒนธรรม บทบัญญัติในกฎหมายจึงมีความย้อนแย้งกันเอง เช่น สิทธิของ
สามีและภรรยาในการสร้างครอบครัวที่ต้องไปตามความเชื่อทางศาสนา ซึ่งหมายถึงไม่สามารถที่จะ
เป็นไปด้วยความสมัครใจและเสรีภาพได้ หรือการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองทารกที่ยังไม่ได้ถือก�าเนิด
ขึ้นมาก็คือ การไม่อนุญาตให้เยาวชนหญิงเข้าถึงทางเลือกส�าหรับการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม รายงานของ
WHO (2005) อ้างถึงการศึกษาปี ๒๐๐๓ ของ The Health Action Information Network (HAIN)
พบว่า เยาวชนฟิลิปปินส์ร้อยละ ๕๘.๘ ยอมรับเรื่องการท�าแท้งหากส่งผลต่อชีวิตของแม่ และงาน
วิจัยอื่นศึกษาที่ Baguio พบว่า นักศึกษากล่าวว่า การท�าแท้งเป็นสิ่งที่ผิดไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด
(Cruz and Diaz, 2001) นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังอ้างถึงข้อค้นพบของ Cabigon (1999) ว่า
อัตราการยอมรับของประชากรทั่วไปเรื่องการท�าแท้งต�่ามาก (ร้อยละ ๔) เนื่องจากความเชื่อทาง
สังคมที่มองว่าการท�าแท้งเป็นสิ่งต้องห้ามตามความเชื่อของศาสนาและผิดกฎหมาย
56 // ปัญหำเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน