Page 81 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 81
๕๔
กำรประสำนงำนระหว่ำงหน่วยงำนต่ำง ๆ ตลอดจนกำรจัดท ำรำยงำนประจ ำปี โดยได้ก ำหนดให้อ ำนำจ
หน้ำที่อื่นของคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติตลอดจนคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ำม กำรสรรหำ
กำรเลือก กำรถอดถอน และกำรก ำหนดค่ำตอบแทนกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติเป็นไปตำมที่
กฎหมำยบัญญัติ สมควรด ำเนินกำรให้เป็นไปตำมบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่ำว จึงจ ำเป็นต้องตรำ
พระรำชบัญญัตินี้
ควำมหมำยของค ำว่ำ “สิทธิมนุษยชน” มำตรำ 3 ในพระรำชบัญญัตินี้ “สิทธิมนุษยชน”
หมำยควำมว่ำ ศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภำพ และควำมเสมอภำคของบุคคลที่ได้รับกำรรับรอง
หรือคุ้มครองตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย หรือตำมกฎหมำยไทย หรือตำมสนธิสัญญำที่ประเทศ
ไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตำม
กำรตรวจสอบกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน มำตรำ 22 ในกรณีที่มีกำรกระท ำหรือละเลย
กำรกระท ำอันเป็นกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน และมิใช่เป็นเรื่องที่มีกำรฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศำลหรือ
ศำลพิพำกษำหรือมีค ำสั่งเด็ดขำดแล้ว ให้กรรมกำรมีอ ำนำจตรวจสอบและเสนอมำตรกำรแก้ไข
ตำมพระรำชบัญญัตินี้ และในมำตรำ 23 บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิมีสิทธิยื่นค ำร้องโดยท ำเป็นหนังสือตำมที่
ระบุไว้ในพระรำชบัญญัตินี้ หรือร้องเรียนด้วยวำจำโดยมำตรำ 23 วรรค 2 ให้กระท ำได้ตำมระเบียบ
ที่คณะกรรมกำรก ำหนด และในมำตรำ 25 ในกรณีที่คณะกรรมกำรเห็นสมควรให้มีกำรตรวจสอบกำรละเมิด
สิทธิมนุษยชน ให้กรรมกำรแจ้งไปยังบุคคลหรือหน่วยงำนที่ถูกอ้ำงว่ำเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือบุคคล
หรือหน่วยงำนที่คณะกรรมกำรเห็นว่ำเกี่ยวข้องกับกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อให้บุคคลหรือหน่วยงำน
นั้นชี้แจงข้อเท็จจริงภำยในระยะเวลำที่คณะกรรมกำรก ำหนด
(ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ, ๒๕๔๒)
(2) พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
เจตนำรมณ์ เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ ในระบอบประชำธิปไตย
กำรให้ประชำชนมีโอกำสกว้ำงขวำงในกำรได้รับข้อมูลข่ำวสำรเกี่ยวกับกำรด ำเนินกำรต่ำงๆ ของรัฐ
เป็นสิ่งจ ำเป็นเพื่อที่ประชำชนจะสำมำรถแสดงควำมคิดเห็นและใช้สิทธิทำงกำรเมืองได้โดยถูกต้องกับควำม
เป็นจริง อันเป็นกำรส่งเสริมให้มีควำมเป็นรัฐบำลโดยประชำชนมำกยิ่งขึ้นสมควรก ำหนดให้ประชำชน
มีสิทธิได้รู้ข้อมูลข่ำวสำรของรำชกำร โดยมีข้อยกเว้นอันไม่ต้องเปิดเผยที่แจ้งชัดและจ ำกัดเฉพำะข้อมูล
ข่ำวสำรที่หำกเปิดเผยแล้วจะเกิดควำมเสียหำย ต่อประเทศชำติหรือต่อประโยชน์ที่ส ำคัญของเอกชน ทั้งนี้
เพื่อพัฒนำระบอบประชำธิปไตยให้มั่นคงและจะยังผลให้ประชำชนมีโอกำสรู้ถึงสิทธิหน้ำที่ของตน
อย่ำงเต็มที่ เพื่อที่จะปกปักรักษำประโยชน์ของตนได้อีกประกำรหนึ่งด้วย ประกอบกับสมควรคุ้มครองสิทธิ
ส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่ำวสำรของรำชกำรไปพร้อมกัน จึงจ ำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
ข้อมูลข่ำวสำรที่อยู่ในบังคับแห่งพระรำชบัญญัติฉบับนี้ ต้องเป็นข้อมูลข่ำวสำร
ของรำชกำร หมำยควำมว่ำ ข้อมูลข่ำวสำรนั้นต้องอยู่ในควำมครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงำน
ของรัฐ ดังนั้น ควำมหมำยของค ำว่ำ ข้อมูลข่ำวสำรของรำชกำร จึงให้ควำมส ำคัญต่อลักษณะหรือสิทธิ
ในกำรยึดถือข้อมูลข่ำวสำรนั้นว่ำ อยู่ในเขตอ ำนำจครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงำนของรัฐหรือไม่