Page 30 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 30
3
นอกจากนี้ มาตรา ๒๙๐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีอ านาจหน้าที่ส่งเสริมและรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดล้อมในการจัดการ การบ ารุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่อยู่ในเขตพื้นที่ การเข้าไปมีส่วนร่วมในการบ ารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่นอก
เขตพื้นที่ เฉพาะในกรณีที่อาจมีผลกระทบต่อการด ารงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ของตน
ในส่วนที่ ๘ แนวนโยบายด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาตรา ๘๕ รัฐต้อง
ด าเนินการตามแนวนโยบายด้านที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยก าหนดหลักเกณฑ์การใช้
ที่ดินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยให้ค านึงถึงความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทั้งผืนดิน
ผืนน้ า วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น และการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ และก าหนด
มาตรฐานการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน โดยต้องให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหลักเกณฑ์การใช้ที่ดิน
นั้นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย รวมไปถึงจัดให้มีแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ าและ
ทรัพยากรธรรมชาติอื่นอย่างเป็นระบบ และเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ในการสงวน บ ารุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ
อย่างสมดุล โดยประชาชน ชุมชนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องมีส่วนร่วมในการก าหนด
แนวทางการด าเนินงาน
เห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้รับรองสิทธิชุมชน บุคคล และ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ จัดการและใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมร่วมกับรัฐหลายฉบับหรือก่อนหน้านั้น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน
ไม่ได้ให้ความส าคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน ท าให้มีความขัดแย้งในเชิงปฏิบัติด้านหลักการปฏิบัติ
และด้านสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะการประกาศเขตอนุรักษ์ (อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์
สัตว์ป่า) ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการก าหนดแนวเขตป่าอนุรักษ์ ท าให้เขตอนุรักษ์ซ้อนทับที่ดินท ากิน
ของประชาชน และมีบางกรณีมีการประกาศเขตอนุรักษ์ทับที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินที่ได้อนุญาตให้เกษตรกร
เข้าท าประโยชน์ ท าให้ประชาชนไม่ได้รับสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ก าหนดในมาตรา ๓๕
ให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญต้องจัดท าร่างรัฐธรรมนูญให้ครอบคลุมเรื่องดังต่อไปนี้ด้วย
(๖) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม และ
การสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วนและทุกระดับ
(๘) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของรัฐให้เป็นไปอย่างคุ้มค่าและตอบสนอง
ต่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนโดยสอดคล้องกับสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ และกลไก
การตรวจสอบและเปิดเผยการใช้จ่ายเงินของรัฐที่มีประสิทธิภาพ
ค าแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน ๒๕๕๗
โดยค าแถลงดังกล่าวมีความยาวทั้งหมด 23 หน้า ครอบคลุมนโยบาย 11 ด้าน ของรัฐบาล โดยมีส่วน