Page 175 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 175

๑๔๘



               เพราะแต่ละหน่วยงานมีกฎหมายของตนเอง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหา อาทิ พระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับป่าไม้

               ที่ล้าสมัย  และควรน ากฎหมายจ ากัดสิทธิการถือครองที่ดินมาใช้มากกว่าการใช้กฎหมายภาษีที่ดิน
               ที่ก าลังจะประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะเป็นการผูกปัญหาใหม่และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการ

               แก้ไขกฎหมาย การแก้ปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ หากจะแก้ไขต้องให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมแก้ไขอย่างจริงจัง
               ไม่ควรใช้นโยบายกว้างๆ เหมือนกันทั้งประเทศ เนื่องจากท าให้เกิดช่องว่าง มีการบิดเบือนข้อกฎหมาย

               เพื่อเข้าข้างฝ่ายผู้มีอ านาจมากกว่าประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้ง ควรมีบทลงโทษทางกฎหมายเมื่อมีผู้กระท าผิด
               นอกจากนี้ในการออกกฎระเบียบต่างๆ  รัฐต้องประสานกับท้องถิ่นไม่ใช้กฎหมายอย่างเดียวในการแก้ไข

               ปัญหาพื้นที่ท ากิน

                               (5) การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับที่ดินของรัฐต้องเร่งแก้ไข
               ในระหว่างที่รัฐบาลมีอ านาจเต็มภายในปี พ.ศ. 2558 ควรเร่งจัดท าแผนแม่บทในการก าหนดเขตที่ดินของ

               รัฐทุกแปลง โดยตั้งคณะท างานระดับจังหวัดให้เป็นผู้เสนอแนวทางและน าเข้าสภานิติบัญญัติออกเป็น
               กฎหมาย คณะท างานควรประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐที่มีความรับผิดชอบเรื่องที่ดิน ผู้แทนของ

               ภาคประชาชนในพื้นที่ที่มีปัญหา ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เรื่องที่ดิน และมอบให้ส านักงาน
               ที่ดินจังหวัดเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะท างาน และรองผู้ว่าราชการจังหวัดท าหน้าที่ประธานคณะท างาน

               (รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดูแลงานที่ดิน) รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบว่ามีคณะท างานชุด
               ดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อฝ่ายเลขานุการในการเสนอปัญหาและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และ

               ในการก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ ควรท าเป็นแนวถนนรอบแนวเขตของที่ดิน แต่ละหน่วยงานเพื่อแสดง
               แนวเขตให้ชัดเจน


                       จากการศึกษาถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ ข้อคิดเห็นของ
               ประชาชน และการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากพื้นที่กรณีศึกษาสรุปได้ ดังนี้

                       ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับที่ดินและ

               ป่าไม้ พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่เป็นปัญหาการทับซ้อนแนวเขตที่ดินของรัฐ กับที่ดินท ากินและอยู่อาศัยของ
               ประชาชน การศึกษาได้เลือกกรณีค าร้องดังกล่าว จ านวน ๗ กรณีศึกษา โดยเน้นกรณีศึกษาในพื้นที่ป่าไม้

               จ านวน ๖ กรณี และที่ดินสงวนหวงห้ามกับที่ดินสาธารณประโยชน์ จ านวน ๑ กรณี โดยศึกษาจาก
               ค าร้องเรียนในพื้นที่กรณีศึกษา ประกอบ รายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

               รวมทั้งรายงานการตรวจสอบจากผู้ตรวจการแผ่นดิน และสภาผู้แทนประชาชน ทั้งข้อคิดเห็นของประชาชน
               ในพื้นที่กรณีศึกษาทั้ง ๗ กรณี จากการจัดประชุมรับฟังความเห็น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ ๓๕๐ คน

               เป็นประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

                       (๑) ค าร้องที่ ๔๔๗/๒๕๔๗ การประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติทับที่ดิน

               ท ากินราษฎรบ้านตากแดด ต าบลยางหัก อ าเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180