Page 155 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 155
๑๒๘
- ทิศตะวันตก กว้าง ๒๕๐ เส้น จดหลักเขตตามขอบหนอง ต าบลธาตุเชิงชุม
ต าบลพังขว้าง ต าบลเชียงเครือ
จากเอกสารบันทึกข้อความ ส านักงานที่ดินจังหวัดสกลนคร ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม
พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ระบุว่า ในช่องทะเบียนพื้นที่หนองหารสาธารณประโยชน์
ระบุ “เนื้อที่คิดเป็นตารางวา” ค านวณได้เนื้อที่ ๖๖๗,๑๔๐ (ตารางวา) เมื่อค านวณออกมาเป็น ไร่ - งาน -
ตารางวาแล้ว ได้เนื้อที่ ๑,๖๖๗ ไร่ ๓ งาน ๔๐ ตารางวา อาจคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง ในทางปฏิบัติ
ที่เคยปฏิบัติมา น่าจะคิดเนื้อที่เป็น ไร่ - งาน - ตารางวา ตามระยะของข้างเคียงทั้ง ๔ ด้านที่ระบุไว้
เมื่อค านวณทางคณิตศาสตร์แล้ว ได้เนื้อที่ ๔๘,๕๗๐ ไร่ 0 งาน ๒๕ ตารางวา อย่างไรก็ตามทะเบียน
ที่สาธารณประโยชน์เป็นเอกสารที่ท าไว้เดิม แม้อาจจะคลาดเคลื่อนได้ แต่ไม่มีการแก้ไขเอกสารเดิม
จึงปรากฏข้อผิดพลาดจนถึงปัจจุบัน
ที่ผ่านมา ปัญหาว่าหน่วยงานของรัฐไม่สามารถระวังชี้แนวเขตหนองหาร
ตามพระราชกฤษฎีกาฯ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้ ดังนั้น ในการออกหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง “ส านักงานที่ดิน
จังหวัด จึงพิจาณาเห็นว่า เมื่อจังหวัดประสงค์ให้ออกหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง และไม่สามารถระวังชี้
แนวเขตหนองหารได้ ควรส ารวจและพิจารณาหาแนวเขตหนองหารไปพร้อมกับการรังวัดออกหนังสือ
ส าคัญส าหรับที่หลวง” การออกหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวงบริเวณหนองหาร ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ จึงเป็น
การส ารวจหาแนวเขตขึ้นใหม่
ในปัจจุบัน กรมที่ดินได้จัดท าแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐
แสดงแนวเขตที่ดินของรัฐ “หนองหาร” ตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาก าหนดเขตหวงห้ามที่ดิน
ในท้องที่อ าเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ๒๔๘๔ และแนวเขตตามหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง
แปลงที่ ๑ เลขที่ ๐๖๒๓ เนื้อที่ ๗๖,๓๑๗ ไร่ ๒ งาน ๒๕ ตารางวา ซึ่งได้รูปแผนที่ไม่ตรงกับแผนที่แนบ
ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ (รูปที่ 4.7 และ 4.8)
จากการส ารวจของอ าเภอเมืองจังหวัดสกลนคร ผลการรังวัดที่ดินการออกหนังสือ
ส าคัญส าหรับที่หลวง แปลงที่ ๑ เนื้อที่ ๗๖,๓๑๗ ไร่ ๒ งาน ๒๕ ตารางวา มีประชาชนท าประโยชน์
จ านวน ๑๐๘ ราย แยกเป็น มีหลักฐานที่ดิน ๑๐ ราย และไม่มีหลักฐานที่ดิน ๙๘ ราย ส่วนในพื้นที่ตามพระราช
กฤษฎีกาก าหนดเขตหวงห้ามที่ดินฯ ส านักงานที่ดินจังหวัดสกลนครได้ตรวจสอบล่าสุด พบว่า มีการออก
เอกสารสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินอยู่ในเขตแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ ประมาณ
๓๐,๐๐๐ แปลง
