Page 154 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 154

๑๒๗



                                       จึงเป็นปัญหาเมื่อรัฐต้องการออกหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวงในพื้นที่บริเวณ

                   หนองหาร ในปี  พ.ศ. ๒๕๔๐ จึงต้องส ารวจหาแนวเขตขึ้นใหม่ โดยมีเนื้อที่ ๗๖,๓๑๗ ไร่ น้อยกว่าเนื้อที่
                   ตามแผนที่แนบท้ายกฤษฎีกาฯ และพบว่า ในปัจจุบันมีแนวเขตทับซ้อนพื้นที่ชุมชนถึง ๔๕ หมู่บ้าน

                   บางต าบลมีพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด ทั้งนี้ ส านักงานที่ดินจังหวัดสกลนครได้ตรวจสอบล่าสุด พบว่า มีการออก
                   เอกสารสิทธิในที่ดิน ซึ่งอยู่ในเขตแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ มีจ านวนประมาณ ๓๐,๐๐๐ แปลง

                                 (๒) ความเป็นมาและสภาพปัญหา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการก าหนดแนวเขตที่ดิน

                   ของรัฐ และกระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐที่ผ่านมา

                                       ความเป็นมาและสภาพปัญหา

                                       หนองหารสกลนคร เป็นแหล่งน้ าธรรมชาติที่ส าคัญของชาวสกลนครมาตั้งแต่อดีต

                   ทั้งการเป็นแหล่งจับสัตว์น้ า การใช้ที่ดินริมหนองหารท านาปลูกข้าวในช่วงฤดูแล้ง และเป็นแหล่งน้ าประปา
                   เมืองสกลนครในปัจจุบัน การขยายตัวของเมืองและชุมชน การใช้ประโยชน์จากหนองหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ

                   ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรและสภาพแวดล้อมของหนองหาร รวมถึงปัญหาที่ดินและที่ตั้งชุมชน
                   ริมหนองหารทับซ้อนกับแนวเขตหวงห้ามที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาก าหนดเขตหวงห้ามที่ดินในท้องที่

                   อ าเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ๒๔๘๔ และแนวเขตตามหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง
                   ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ในเขตอ าเภอเมืองสกลนคร และอ าเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร


                                       “หนองหาร” มีเนื้อที่ตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาก าหนดเขตหวงห้าม
                   ที่ดิน พ.ศ. ๒๔๘๔ ประมาณ ๑๑๙,๗๓๒ ไร่ ๓ งาน ๙๐ ตารางวา ในปัจจุบันมีแนวเขตทับซ้อนพื้นที่ชุมชน

                   รวมจ านวน ๔๕ หมู่บ้าน ๑๓ ต าบล ซึ่งอยู่ในเขตอ าเภอเมืองสกลนคร ๓๓ หมู่บ้าน ๙ ต าบล และอ าเภอ
                   โพนนาแก้ว ๑๒ หมู่บ้าน ๔ ต าบล

                                       ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ หนองหารได้มีการออกหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง (น.ส.ล.)

                   จ านวน ๒ แปลง แปลงที่ ๑ เนื้อที่ ๗๖,๓๑๗ ไร่ ๒ งาน ๒๕ ตารางวา (น.ส.ล. เลขที่ ๐๖๒๓ ลงวันที่ ๔
                   กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐) แปลงที่ ๒ เนื้อที่ ๖๘๙ ไร่ ๓ งาน ๓๓ ตารางวา  (น.ส.ล. เลขที่ ๐๖๒๔ ลงวันที่ ๔

                   กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐) คงเหลือพื้นที่ ซึ่งยังไม่ได้ออก น.ส.ล. เนื้อที่ประมาณ ๔๒,๗๑๖ ไร่ ๒ งาน ๓๕ ตารางวา

                                       ทั้งนี้ พื้นที่หนองหารได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์ เมื่อวันที่ ๓๐

                   มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ เนื้อที่ประมาณ ๖๐,๐๐๐ ไร่ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ทราบอาณาเขตที่แน่นอนเพราะ
                   ตามทะเบียนที่สงวนไว้เพื่อเป็นที่สาธารณประโยชน์ ระบุขอบเขตว่าจดขอบหนองทั้งสี่ด้าน คือ

                                       - ทิศเหนือ กว้าง ๒๓๗ เส้น จดหลักเขตตามขอบหนอง ต าบลนาแก้ว ต าบลท่าแร่

                                       - ทิศใต้ กว้าง ๑๖๒ เส้น จดหลักเขตตามขอบหนอง ต าบลท่าวัด ต าบลดงชน
                   ต าบลงิ้วด่อน

                                       - ทิศตะวันออก กว้าง ๒๓๗ เส้น จดหลักเขตตามขอบหนอง ต าบลนาแก้ว ต าบล
                   ท่าวัด
   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159