Page 13 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 13

III



                          ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้น าเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ต่อคณะกรรมการ

                   สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยได้เลือกกรณีค าร้อง จ านวน ๗ กรณีศึกษา โดยเน้นกรณีศึกษาในพื้นที่ ป่าไม้
                   จ านวน ๖ กรณี และที่ดินสงวนหวงห้ามกับที่ดินสาธารณประโยชน์ จ านวน ๑ กรณี สรุปได้ว่า

                          (๑) รัฐเป็นผู้ก าหนดเขตจ าแนกพื้นที่แต่ฝ่ายเดียว โดยไม่ค านึงถึงสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่ว่า

                   ประชาชนท ากินมาก่อน ท าให้ประชาชนไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายก าหนด

                          (๒) ปัญหาข้อขัดแย้ง ยังไม่สามารถหาข้อยุติแนวเขตร่วมกันของหน่วยงานได้ ประชาชน

                   ถูกจับกุมด าเนินคดี และไม่สามารถท ากินได้ตามสิทธิที่ควรจะได้รับตามกฎหมาย หน่วยงานของรัฐมิได้
                   เร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนผู้เดือดร้อน

                          (๓) มีการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงและมีการ

                   ก าหนดจุดพิกัดพื้นที่ผิดพลาด

                          (๔) การเพิ่มความเข้มข้นของกฎหมายที่กระทบสิทธิของประชาชน  เป็นการละเมิดสิทธิของ

                   ประชาชนที่พึงมี

                          (๕) การมีส่วนร่วมของประชาชนมิได้เป็นที่ยอมรับและระบุไว้เป็นระเบียบปฏิบัติ เพื่อร่วมก าหนด
                   แนวเขตอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนเกิดจากการตื่นตัวและเรียกร้องของประชาชน

                   มากกว่า

                          (๖) การทับซ้อนในเรื่องแนวเขตและกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

                          (๗) ประชาชนจ านวนมากเสียสิทธิในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินที่มีการประกาศที่หวงห้าม

                   ของรัฐ

                          โดยสามารถวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหา แนวทางในการปฏิบัติของการมีส่วนร่วมของประชาชน

                   ในการก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐได้ ๘ ประเด็น คือ

                          ๑.  การมีส่วนร่วมของประชาชน และความสัมพันธ์ของการมีส่วนร่วม ข้อมูลข่าวสาร และ
                   การกระจายอ านาจ พบว่า การมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีการด าเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีองค์กร

                   รับผิดขอบหลักที่มีหน้าที่ในการก าหนดหลักเกณฑ์ ประชาชนและส่วนราชการยังไม่เห็นความส าคัญ
                   ของการมีส่วนร่วม ขาดรูปแบบการมีส่วนร่วมที่แท้จริง  โครงสร้างระบบราชการไม่เกื้อหนุนให้ประชาชน

                   สามารถเข้าไปมีส่วนร่วม รัฐมิได้ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ส าหรับความสัมพันธ์กัน
                   ระหว่างการมีส่วนร่วม ข้อมูลข่าวสาร และการกระจายอ านาจ  พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน กฎหมาย

                   ด้านการมีส่วนร่วม การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการกระจายอ านาจ ได้แยกหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ
                   ออกจากกัน แยกกันด าเนินการ ไม่เป็นเอกภาพที่จะให้เกิดการบูรณาการ ส่งผลถึงการให้ประชาชนเข้าไป

                   มีส่วนร่วมไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร

                          ๒.  การทับซ้อนของแนวเขตที่ดินของรัฐกระทบสิทธิในที่ดินของประชาชน พบว่า การก าหนด

                   แนวเขตที่ดินของรัฐและมีการทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงานภายในด้วยกัน มีการทับซ้อนกันระหว่าง
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18