Page 19 - สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำรุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
P. 19
การเก็บเงินบำารุงการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ฉบับลงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๓ จึงมีผลบังคับใช้โดยไม่ต้องนำาไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้ร้องได้มีหนังสือลงวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ขอให้ทบทวนคำาวินิจฉัย
๓. ประธานกรรมาธิการการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล
วุฒิสภา โดยผู้ร้องมีหนังสือลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๓
๔. นายกรัฐมนตรี โดยผู้ร้องมีหนังสือลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๓
๕. คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทน
ราษฎร โดยผู้ร้องมีหนังสือลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
๖. สำานักพระราชวัง โดยผู้ร้องมีหนังสือถวายฎีกา ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๓
๗. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยผู้ร้องมีหนังสือ
ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ และมีหนังสือส่งเอกสารเพิ่มเติมในความเป็นนิติบุคคลของสถานศึกษาที่
ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
๒) ผู้แทนกระทรวงศึกษ�ธิก�ร โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ผู้แทนสำานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าร่วมการประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
สรุปได้ดังนี้
ด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง
กำาหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐจะต้องจัดให้อย่าง
ทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งในการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีขีดความ
สามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนให้สูงขึ้น สามารถดำารงชีวิตอย่างมี
ความสุขได้บนพื้นฐานของความเป็นไทยและความเป็นสากล รวมทั้งพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำาหนดให้มีการระดมทรัพยากรเพื่อจัดการศึกษา และให้
บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน
องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น มีส่วนร่วมในการจัด
การศึกษา กอปรกับกระทรวงศึกษาธิการได้ออกกฎกระทรวงกำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจาย
อำานาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยให้สถานศึกษามีอำานาจในการจัดการเรียน
การสอนและการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา ดังนั้น การจัดหลักสูตรการเรียนการสอนของแต่ละ
สถานศึกษาย่อมมีความแตกต่างกัน ตามความต้องการและความเหมาะสมของท้องถิ่น แต่เป็นไปด้วย
ความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งขอบข่ายลักษณะการจัดการเรียนการสอน
เสริมนอกหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานประกอบด้วย
(๑) จัดหลักสูตรที่มีเนื้อหาสาระมากกว่าปกติในรายวิชานั้น เช่น การเรียนการสอน
ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ เป็นภาษาอังกฤษ (English Program : EP หรือ Mini English
18
สิทธิและเสรีภาพในการศึกษา กรณีขอให้ตรวจสอบและดำาเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการเก็บเงินบำารุงการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ