Page 27 - รายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี
P. 27
23
ประโยชน์หรือรางวัล ไปจนถึงการขังเดี่ยว และการตัดจ านวนวันที่ได้รับการลด
โทษ เรือนจ าส่วนใหญ่ลงโทษทางวินัยต่อผู้ต้องขังโดยการแยกขัง ขังเดี่ยว และ
การตีตรวน อย่างไรก็ดี มีทัณฑสถานหญิงที่ไปตรวจเยี่ยม 2 แห่งไม่มีการใช้
พันธนาการ การขังเดี่ยวและการแยกขังแล้ว เรือนจ าทุกแห่งมีการอนุญาตให้ญาติ
เข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง แต่เรือนจ าบางแห่งมีการงดรับฝากของเยี่ยม เพื่อป้องกันการ
ลักลอบส่งสิ่งของต้องห้ามหรือยาเสพติดเข้าไปในเรือนจ า เนื่องจากการแพร่
ระบาดของยาเสพติดเป็นปัญหาส าคัญในเรือนจ าหลายแห่ง ท าให้กระทบสิทธิของ
ผู้ต้องขังทั่วไปที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในด้านการฟื้นฟูผู้ต้องขัง เรือนจ า
ทุกแห่งมีการจัดให้ผู้ต้องขังได้รับการศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาและฝึกอาชีพ
รวมไปถึงการจ้างแรงงานโดยหน่วยงานภายนอก และมีการให้ค่าตอบแทนในการ
ท างานแก่ผู้ต้องขัง ส่วนการร้องทุกข์ ผู้ต้องขังมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามกฎกระทรวง
มหาดไทยออกตามความในมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479
โดยการยื่นเรื่องร้องทุกข์ให้ยื่นต่อพัศดีหรือใส่ลงในที่ที่จัดไว้ หากผู้ต้องขังต้องการ
รักษาเรื่องร้องทุกข์เป็นความลับ ข้อ 125 กฎกระทรวงฯ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่
เรือนจ าอ่านและให้ส่งหนังสือร้องทุกข์ไปยังผู้รับต่อไป
37. ข้อเสนอแนะ รัฐบาลควรให้ความส าคัญกับการแก้ไขปัญหาความแออัดของ
เรือนจ าโดยใช้นโยบายด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่มั่งเน้นการหันเหออก
จากกระบวนการยุติธรรม ปรับเปลี่ยนวิธีการลงโทษตามพฤติการณ์ของการ
กระท าผิดเพื่อลดจ านวนผู้ต้องขังในเรือนจ าและให้เรือนจ าเป็นสถานที่คุมขัง
ผู้กระท าผิดร้ายแรงเท่านั้น ในขณะเดียวกัน รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณและ
บุคลากรส าหรับเรือนจ าต่างๆ รวมทั้งปรับปรุงสถานที่ให้เหมาะสมกับจ านวน
ผู้ต้องขัง และเพื่อให้สามารถแยกการควบคุมผู้ที่ถูกคุมขังประเภทต่างๆ ตาม
หลักการสากล รวมถึงอาจพิจารณาให้ภาคเอกชนเข้ามาดูแลผู้ที่ถูกคุมขังระหว่าง