Page 115 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 115
114 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗
หลังจากที่มีคำาสั่ง คสช. และการปฏิบัติตามแผนแม่บทดังกล่าว กสม. ได้รับเรื่อง
๕๕
ร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำานวน ๓๕ คำาร้อง (จากเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับกรณี
๕๖
ที่ดินและป่า ในปี ๒๕๕๗ ทั้งหมด ๖๐ คำาร้อง) ภายในระยะเวลา ๖ เดือน จากข้อมูลที่ร้องเรียน
มายัง กสม. พบว่า เรื่องร้องเรียน จำานวน ๔๔ คำาร้องนั้น ร้อยละ ๙๘ เป็นเรื่องปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน
๕๗
ของรัฐ เช่น เขตอุทยาน เขตป่าอนุรักษ์ ที่สาธารณประโยชน์ เป็นต้น และส่วนใหญ่เป็นกรณีคำาร้อง
ที่มีสาเหตุมาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐตามคำาสั่งของ คสช. โดยเจ้าหน้าที่รัฐดำาเนินการมิได้
คำานึงถึงข้อพึงระวัง ตามคำาสั่ง ที่ ๖๖/๒๕๕๗ ข้อ ๒.๑ จนเกิดผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนผู้ยากไร้
ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำากิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นๆ ก่อนคำาสั่งนี้มีผลบังคับใช้ จนทำาให้
เกิดข้อพิพาทอย่างกว้างขวาง โดยมีกรณีตัวอย่างที่แสดงถึงผลกระทบจากคำาสั่งดังกล่าว เช่น
F กรณีที่เจ้าหน้าที่ได้นำากำาลังกว่า ๑,๐๐๐ นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าไปตรวจค้น
บ้านเรือนชาวบ้านที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยอ้างว่ามีเบาะแสการค้าไม้เถื่อนและมีไม้หวงห้ามไว้ใน
ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ผู้ร้องอ้างว่า ไม้เหล่านั้นมีไว้เพื่อสร้างและต่อเติมบ้านเรือน
เพื่ออยู่อาศัยของชาวบ้านชนเผ่ากะเหรี่ยง จำานวน ๓๙ ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย
ที่อาศัยและทำากินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ประกาศซ้อนทับ ต่อมา ชาวบ้าน
ทั้ง ๓๙ รายถูกฟ้องร้องดำาเนินคดี
F กรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้นำากำาลัง
เข้ายึดพื้นที่ทำากินของชาวบ้านจังหวัดน่าน ซึ่งอ้างว่าอาศัยและทำากินในพื้นที่ดังกล่าวมาช้านาน
โดยกล่าวหาว่าชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ป่าตามมติคณะรัฐมนตรี และต่อมา ได้ยึดที่ดินทำากินของชาวบ้าน
ในบริเวณเดียวกัน ทำาให้มีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมากถึง ๑๐๑ ครอบครัว หรือจำานวนประมาณ ๔๐๖ ราย
F กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำารวจ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
จังหวัดนครพนม เข้าตรวจสอบที่ดินสาธารณประโยชน์ และได้มีการจับกุมดำาเนินคดีกับชาวบ้าน จำานวน
๕๕ คำาร้องที่ผู้ร้องได้รับผลกระทบจากคำาสั่ง คสช. ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘ (ข้อมูล ณ วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘) จำานวน ๔๔ คำาร้อง
เป็นคำาร้องปี ๒๕๕๖ จำานวน ๖ คำาร้อง คำาร้องปี ๒๕๕๗ จำานวน ๓๕ คำาร้อง และคำาร้องปี ๒๕๕๘ จำานวน ๓ คำาร้อง
๕๖ ในการประชุมภาคีเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน เมื่อวันที่ ๖-๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ เอบีน่าเฮ้าส์ กรุงเทพฯ ได้มีการสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นใน
ภาคต่าง ๆ เช่น ภาคเหนือ ในจังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่รัฐปิดป้ายห้ามประชาชนเข้าทำาประโยชน์ในพื้นที่ จนเกิดการเคลื่อนไหวคัดค้าน
ภาคใต้ มีการจับกุมผู้คัดค้านเพื่อที่ดินทำากิน ในขณะที่มีการรื้อทำาลายทรัพย์สินของประชาชน เช่น ในจังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี
และนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ๑๗ จังหวัดในลักษณะที่คล้ายกัน คือ มีคำาสั่ง/
ประกาศให้ออกจากพื้นที่ ผลักดัน ตัดฟัน ไล่รื้อ ตั้งด่านปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าพื้นที่ มีการข่มขู่ ติดป้ายตรวจยึดทรัพย์สิน เป็นต้น
้
ภาคตะวันออก มีการนำาพื้นที่ป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ไปสวมเป็นโครงการฟื้นฟูป่า ต้นนำา ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่า
ควรมีการทบทวนคำาสั่ง ปรับปรุงแผนแม่บท และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการดำาเนินการ
๕๗ เดลินิวส์. (๒๕๕๘). กสม.ชี้นโยบาย คสช. แก้ปัญหาที่ทำากินไร้ผล. ดูรายละเอียดเพิ่มเติม <www.dailynews.co.th/
politics/322724> เข้าดู ณ วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๘