Page 18 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 18
16 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
ตามขั้นตอนและวิธีการตามร่างพระราชบัญญัติฯ ก่อนฟ้องคดีต่อศาล หากไม่ดำาเนินการและความปรากฏ
ต่อศาล ให้ศาลสั่งจำาหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายพึงมีอิสระในการ
เลือกดำาเนินการตามร่างพระราชบัญญัติฯ หรือฟ้องคดีต่อศาล ควรให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพยุติ
การดำาเนินการตามร่างพระราชบัญญัติฯ เมื่อมีการฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ไม่ใช่ยุติเมื่อจะฟ้องคดี ให้ตัดบทบัญญัติ
ในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ที่ว่า (ผู้ได้รับผลกระทบหรือทายาท) จะฟ้องผู้ก่อให้เกิดผลกระทบหรือหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดผลกระทบไม่ได้ เนื่องจากเป็นการรอนและตัดสิทธิในการฟ้องคดี ตัดมาตรา ๒๗ วรรคสอง
ที่ให้สำานักงาน (กรมสนับสนุนบริการสาธารณสุข) ทำารายงานการจ่ายเงินชดเชยไปยังศาลที่พิจารณาคดีที่กองทุน
ถูกฟ้อง เนื่องจากศาลมีอำานาจเรียกพยานหลักฐานได้อยู่แล้ว กระบวนการตามร่างพระราชบัญญัติฯ เป็น
กระบวนการทางปกครอง จึงควรให้ศาลปกครองพิจารณา ส่วนคดีพิพาทระหว่างผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
โดยตรง (ข้อพิพาทระหว่างเอกชนด้วยกัน) ควรเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลยุติธรรม ควรมีบทบัญญัติให้
นำาพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาใช้ร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๓๑ ซึ่งกำาหนด
ข้อยกเว้นให้ผู้ให้บริการสาธารณสุขไม่ต้องรับผิดกรณีประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ทั่วไปเรื่องละเมิด และกระทบหลักการกระทำาโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งไม่ได้แบ่งเกณฑ์
การประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไว้ รายละเอียดอยู่ในผลงานลำาดับที่ ๖