Page 13 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 13

11
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                  ควรให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ) เป็นหน่วยดูแลระบบการแพทย์ฉุกเฉิน  แนวทางที่จะดำาเนินการ

                  ต่อไป คือ จัดให้มีกลไกทำาหน้าที่บริหารจัดการระบบ ตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายค่าบริการ รับอุทธรณ์เรื่อง
                  ร้องเรียน แก้ปัญหาของประชาชนเรื่องนี้ส่วนมาตรการควบคุมอัตราค่ารักษาของโรงพยาบาลเอกชน  ปัจจุบัน

                  ดำาเนินการโดยใช้พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และประกาศกระทรวง เรื่อง มาตรฐานการบริการ
                  ด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๗  รวมทั้ง ได้เสนอไปยังกรมการค้าภายในเพื่อกำาหนด
                  ให้ค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉินเป็นสินค้าควบคุม กระทรวงพาณิชย์ ตามหนังสือลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๘

                  แจ้งว่า การกำาหนดเป็นสินค้าหรือบริการควบคุมจะต้องเสนอคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและ
                  บริการ (กกร.) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ รายละเอียดอยู่ในผลงานลำาดับที่ ๒






                        ผลงานลำาดับที่ ๓
                        เรื่อง  ร่�งพระร�ชบัญญัติป้องกันและปร�บปร�มก�รทรม�นและก�รบังคับบุคคลให้สูญห�ย พ.ศ. ....

                             คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารายงานผลการพิจารณาฯ

                  เรื่อง การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย
                                   ่
                  ไร้มนุษยธรรม หรือยำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้าน
                  การทรมานฯ  รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย  และ
                  คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ รับทราบรายงานผลการพิจารณาฯ ของคณะกรรมการฯ และ
                  รับทราบสรุปผลการดำาเนินงานของหน่วยงานราชการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ  รวมทั้งให้กระทรวง

                  ยุติธรรมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำาเนินการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ  โดยหนึ่งในจำานวนนั้น  คือ
                  การยกร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ  พ.ศ. ....

                  (ต่อมาเปลี่ยนเป็น ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. ....)
                  ขณะจัดทำารายงานผลการพิจารณาฯ นี้  ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ระหว่างบรรจุเป็นวาระการประชุมของ
                  คณะรัฐมนตรี

                             คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาและมีข้อเสนอแนะนโยบาย เรื่องนี้ว่า
                  คณะกรรมการฯ เห็นด้วยกับการเสนอให้เรื่องการต่อต้านการทรมานและการคุ้มครองบุคคลจากหายสาบสูญ

                  โดยถูกบังคับตามอนุสัญญาสองฉบับข้างต้น  เป็นกฎหมายพิเศษต่างหากในลักษณะพระราชบัญญัติตามที่
                  กระทรวงยุติธรรมเสนอ รัฐสภา คณะรัฐมนตรีควรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ นี้  โดยนำาข้อเสนอแนะของ
                  คณะกรรมการฯ ประกอบการพิจารณา  ระหว่างประเทศไทยยังไม่เป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้าน

                  การทรมานฯ  รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนระบบการเข้าเยี่ยมสถานที่ที่ทำาให้บุคคลเสื่อมเสีย
                  อิสรภาพ  ร่างพระราชบัญญัติฯ ควรเพิ่มนิยามคำาว่า ผู้บังคับบัญชา และมีกลไกสอบสวนและดำาเนินคดีตาม

                  กฎหมายแก่ผู้กระทำาผิดคดีทรมานหรือคดีบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นผู้นำาระดับสูง  ควรบัญญัติให้ชัดเจนว่า
                  ให้คณะกรรมการตามร่างพระราชบัญญัติฯ มีอำานาจหน้าที่มอบหมายพนักงานอัยการสอบสวนร่วมกับพนักงาน
                  สอบสวนและพนักงานฝ่ายปกครองโดยให้พนักงานอัยการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน กระทรวงมหาดไทยและ

                  สำานักงานอัยการสูงสุดควรพิจารณาแก้ไขกฎ ระเบียบในความรับผิดชอบเพื่อรองรับการทำาหน้าที่สอบสวนคดี
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18