Page 17 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 17

15
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                  แก้ไขพระราชบัญญัติการรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยให้ใช้การรับราชการทหารกองประจำาการโดยวิธี

                  สมัครใจ ให้ผู้สมัครใจเป็นทหารกองประจำาการในพื้นที่ที่มีผู้สมัครใจเกินความต้องการ ได้เป็นทหารกองประจำาการ
                  ทุกกรณี  ส่งเสริมหรือมีมาตรการจูงใจที่เปิดโอกาสให้มีการสมัครใจเป็นทหารกองประจำาการ  โดยเน้นให้

                  ทหารกองประจำาการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ กำาหนดเป้าหมายให้ลดหรือเลิกใช้การคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ
                  เป็นทหารกองประจำาการจากการบังคับเป็นสมัครใจ กำาหนดนโยบายความต้องการกำาลังพลในแต่ละปี กำาหนด
                  สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจให้มีการสมัครใจเป็นทหาร/ตำารวจกองประจำาการมากขึ้น โดยคำานึงถึงความสมัครใจ

                  รายละเอียดอยู่ในผลงานลำาดับที่ ๕




                        ผลงานลำาดับที่ ๖
                        เรื่อง  ร่�งพระร�ชบัญญัติกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจ�กก�รบริก�รส�ธ�รณสุข พ.ศ. ....


                             ปัจจุบันความเสียหายจากบริการสาธารณสุขมีแนวโน้มที่เกิดขึ้นตรงกัน  ในประเทศไทยและ
                  หลายประเทศ คือ แต่ละปีมีผู้ป่วยที่ต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากความผิดพลาดทางการแพทย์ในกระบวนการ
                  รักษาพยาบาลเป็นจำานวนมาก  ประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเกิดความผิดพลาดและความเสียหายเพียงใด

                  หากพิจารณาสถิติการร้องเรียนของประชาชนไปยังแพทยสภาและทางสื่อมวลชนแล้ว จะเห็นแนวโน้มความรุนแรง
                  ของปัญหาและทำาให้การเผชิญหน้าระหว่างประชาชนกับบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้น  คณะกรรมการปฏิรูป
                  กฎหมายได้ทำาการศึกษาและเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....

                  ต่อคณะรัฐมนตรี และรัฐสภา กระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาร่างกฎหมายในเรื่องดังกล่าวและจัดทำาเป็น
                  ร่างพระราชบัญญัติกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....

                             คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาและมีข้อเสนอแนะนโยบายเรื่องนี้ว่า  หากจะให้
                  กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สามารถระงับ เพิกถอนใบอนุญาตสถานพยาบาลและประกอบ

                  โรคศิลปะ กรณีสถานพยาบาลฝ่าฝืนคำาสั่งที่ออกมาอันเกี่ยวเนื่องกับกองทุน  ร่างพระราชบัญญัติฯ ต้องกำาหนดให้
                  กรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีอำานาจหน้าที่ดังกล่าวด้วย  และเห็นว่าหน่วยงานที่ควรรับผิดชอบการดำาเนินการ

                  ตามร่างพระราชบัญญัติฯ ควรเป็นสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เนื่องจากดูแลผู้ได้รับความเสียหายจาก
                  การบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ อยู่แล้ว

                             ในเชิงข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย  คณะกรรมการฯ เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติฯ ควรใช้คำาว่า
                  “ผู้เสียหาย” ไม่ใช่ “ผู้ได้รับผลกระทบ”  ชื่อร่างพระราชบัญญัติฯ ควรเป็น  ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครอง
                  ผู้เสียหายจากการบริการสาธารณสุขฯ ตัดนิยามคำาว่า “ผู้ได้รับผลกระทบ” เพิ่มนิยามคำาว่า “ผู้เสียหาย”

                  คณะกรรมการตามร่างพระราชบัญญัติฯ ควรเพิ่มอธิบดีกรมบัญชีกลางซึ่งรับผิดชอบระบบสวัสดิการรักษา
                  พยาบาลของข้าราชการด้วย เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นหลังทำาสัญญาประนีประนอม  ควรให้ผู้เสียหาย
                  สามารถยื่นคำาร้องขอรับเงินชดเชยตามร่างพระราชบัญญัติฯ  ภายใน ๓ ปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย

                  ไม่เกิน ๑๐ ปีนับแต่วันที่เกิดความเสียหายเมื่อศาลมีคำาพิพากษายกฟ้องโดยไม่วินิจฉัยให้ผู้ใดรับผิด
                  ให้คณะอนุกรรมการพิจารณาเงินชดเชยคณะอนุกรรมการดังกล่าวประจำาจังหวัดพิจารณาดำาเนินการตาม

                  ร่างพระราชบัญญัติฯ ได้อีก  ผู้เสียหายที่รับเงินชดเชยความเสียหายและมีการจัดทำาสัญญาประนีประนอม
                  ไม่ควรถูกตัดสิทธิการฟ้องคดีต่อศาล  ควรตัดมาตรา ๒๒  ที่ว่าให้ผู้ได้รับผลกระทบต้องดำาเนินการ
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22