Page 483 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 483

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                         ในการเดินสํารวจพิสูจนสอบสวนการทําประโยชนเพื่อออกหนังสือรับรองการทําประโยชน เจาพนักงาน

                ที่ดินมีอํานาจแตงตั้งผูซึ่งไดรับการอบรมในการพิสูจนสอบสวนการทําประโยชน เปนเจาหนาที่ออกไปพิสูจน
                สอบสวนการทําประโยชนแทนตนได

                         ในการปฏิบัติหนาที่ตามวรรคสี่ ใหเจาหนาที่เปนเจาพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
                         มาตรา 58  ทวิ  เมื่อไดสํารวจรังวัดทําแผนที่หรือพิสูจนสอบสวนการทําประโยชนในที่ดิน

                ตามมาตรา 58 แลว ใหพนักงานเจาหนาที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนแลวแตกรณี
                ใหแกบุคคลตามที่ระบุไวในวรรคสอง เมื่อปรากฏวาที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเปนที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดิน

                หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนไดตามประมวลกฎหมายนี้
                         บุคคลซึ่งพนักงานเจาหนาที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามวรรคหนึ่ง

                ใหได คือ
                            (1)  ผูซึ่งมีหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดิน มีใบจอง ใบเหยียบยํ่า หนังสือรับรองการทําประโยชน

                โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราวา “ไดทําประโยชนแลว” หรือเปนผูมีสิทธิตามกฎหมายวาดวยการจัดที่ดิน
                เพื่อการครองชีพ

                            (2)  ผูซึ่งไดปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี
                            (3)  ผูซึ่งครอบครองที่ดินและทําประโยชนในที่ดินภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใชบังคับ

                และไมมีใบจอง ใบเหยียบยํ่า หรือไมมีหลักฐานวาเปนผูมีสิทธิตามกฎหมายวาดวยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ
                         เพื่อประโยชนแหงมาตรานี้ ผูซึ่งมีหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดินตามวรรคสอง (1) ใหหมายความ

                รวมถึงผูซึ่งไดครอบครอบและทําประโยชนในที่ดินตอเนื่องมาจากบุคคลดังกลาวดวย
                         สําหรับบุคคลตามวรรคสอง (2) และ (3) ใหออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน

                แลวแตกรณี ไดไมเกินหาสิบไร ถาเกินหาสิบไร จะตองไดรับอนุมัติจากผูวาราชการจังหวัดเปนการเฉพาะราย
                ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด

                         ภายในสิบปนับแตวันที่ไดรับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามวรรคหนึ่ง หามมิให
                บุคคลตามวรรคสอง (3) ผูไดมาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกลาวโอนที่ดินนั้น ใหแกผูอื่น เวนแตเปนการตกทอดทางมรดก

                หรือโอนใหแกทบวงการเมือง องคการของรัฐบาลตามกฎหมายวาดวยการจัดตั้งองคการของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ
                ที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ หรือโอนใหแกสหกรณเพื่อชําระหนี้โดยไดรับอนุมัติจากนายทะเบียนสหกรณ

                         ภายในกําหนดระยะเวลาหามโอนตามวรรคหา ที่ดินนั้นไมอยูในขายแหงการบังคับคดี
                         มาตรา 58 ตรี เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะใหมีการออกโฉนดที่ดินสําหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรอง

                การทําประโยชนซึ่งใชระวางรูปถายทางอากาศในทองที่ใด ใหรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษากําหนด
                ทองที่นั้นและวันที่เริ่มดําเนินการออกโฉนดที่ดินใหทราบลวงหนาไมนอยกวาสามสิบวัน

                         การทําแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดินตามวรรคหนึ่ง ใหนําหลักฐานเกี่ยวกับระวางรูปถายทางอากาศ
                ที่ใชกับหนังสือรับรองการทําประโยชนมาปรับแกตามหลักวิชาการ แผนที่รูปถายทางอากาศโดยไมตอง

                ทําการสํารวจรังวัด เวนแตกรณีจําเปนใหเจาพนักงานที่ดินทําการสํารวจรังวัด




         462     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   478   479   480   481   482   483   484   485   486   487   488