Page 479 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 479

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand


                            (4)  สงเสริมใหประชาชนมีความเขมแข็งในทางการเมือง และจัดใหมีกฎหมายจัดตั้งกองทุนพัฒนา
                การเมืองภาคพลเมืองเพื่อชวยเหลือการดําเนินกิจกรรมสาธารณะของชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการดําเนินการ

                ของกลุมประชาชนที่รวมตัวกันในลักษณะเครือขายทุกรูปแบบใหสามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอ
                ความตองการของชุมชนในพื้นที่

                            (5)  สงเสริมและใหการศึกษาแกประชาชนเกี่ยวกับการพัฒนาการเมืองและการปกครองระบอบ
                ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุข รวมทั้งสงเสริมใหประชาชนไดใชสิทธิเลือกตั้งโดยสุจริต

                และเที่ยงธรรมการมีสวนรวมของประชาชนตามมาตรานี้ตองคํานึงถึงสัดสวนของหญิงและชายที่ใกลเคียงกัน

                         2.  ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยวาดวยทรัพยสิน
                         มาตรา 1336 ภายในบังคับแหงกฎหมาย เจาของทรัพยสินมีสิทธิใชสอยและจําหนายทรัพยสินของตน

                และไดซึ่งดอกผลแหงทรัพยสินนั้นกับทั้งมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพยสินของตนจากบุคคลผูไมมีสิทธิ
                จะยึดถือไว และมีสิทธิขัดขวางมิใหผูอื่นสอดเขาเกี่ยวของกับทรัพยสินนั้นโดยมิชอบดวยกฎหมาย

                         มาตรา 1367 บุคคลใดยึดถือทรัพยสินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ทานวาบุคคลนั้นไดซึ่งสิทธิครอบครอง

                         3.  พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497

                         มาตรา 5 ใหผูที่ไดครอบครองและทําประโยชนในที่ดินอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ
                โดยไมมีหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน แจงการครอบครองที่ดินตอนายอําเภอทองที่ภายในหนึ่งรอยแปดสิบวัน

                นับแตวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ตามหลักเกณฑและวิธีการที่รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
                         การแจงการครอบครองตามความในมาตรานี้ ไมกอใหเกิดสิทธิขึ้นใหมแกผูแจงแตประการใด

                         มาตรา 6 บุคคลที่ครอบครองและทําประโยชนในที่ดินอยูโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันที่พระราชบัญญัติ
                ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2479 ใชบังคับและผูรับโอนที่ดินดังกลาว ใหมีสิทธิขอรับโฉนดที่ดิน

                ตามบทแหงประมวลกฎหมายที่ดิน สําหรับบุคคลที่ครอบครองที่ดินตั้งแตวันที่พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน
                (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2479 ใชบังคับเปนตนมา และกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ ถาไมดําเนินการ

                ใหชอบดวยกฎหมายที่ใชบังคับอยูในขณะนั้น การออกโฉนดที่ดินใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการที่กําหนด
                โดยกฎกระทรวง และใหพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2479 คงใชบังคับตอไป

                         มาตรา 7 ที่ดินที่ไดรับอนุญาตใหจับจองไวแลวตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6)
                พุทธศักราช 2479 และยังมิไดรับคํารับรองวา ไดทําประโยชนแลวกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับใหถือวา

                ผูไดรับอนุญาตยังมีสิทธิที่จะมาขอคํารับรองจากนายอําเภอไดจนกวาจะครบกําหนดหนึ่งรอยแปดสิบวัน
                นับจากวันสิ้นสุดเวลาแหงการจับจองตามพระราชบัญญัติดังกลาว

                         ในกรณีระยะเวลาแหงการจับจองดังกลาวในวรรคแรกสิ้นสุดลง กอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ
                หากปรากฏวาการทําประโยชนจากที่ดินที่ไดรับอนุญาตใหจับจองอยูในสภาพที่จะพึงขอคํารับรองวา ไดทําประโยชน

                ดังกลาวแลวได ใหยื่นคําขอตอนายอําเภอเพื่อขอคํารับรองเสียภายในกําหนดหนึ่งรอยแปดสิบวันนับแตวันที่
                ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ เมื่อพนกําหนดเวลาดังกลาว ใหถือวาที่ดินนั้นปลอดจากการจับจองเวนแต

                นายอําเภอไดมีคําสั่งผอนผันใหเปนการเฉพาะราย


         458     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   474   475   476   477   478   479   480   481   482   483   484